เมื่อพูดถึงการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันในปัจจุบัน หนึ่งในฐานข้อมูลที่ได้รับความนิยมก็คือ MongoDB เนื่องจากเป็น NoSQL Database ที่เหมาะกับโปรเจกต์ที่มีการจัดการข้อมูลอย่างยืดหยุ่นและมีความสามารถในการจัดการข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาการใช้ MongoDB ร่วมกับภาษา Ruby กันอย่างละเอียด ตั้งแต่การเชื่อมต่อ นำข้อมูลเข้าและออก ไปจนถึงการ query ข้อมูล
MongoDB เป็นฐานข้อมูลแบบ NoSQL ที่จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบเอกสาร (document) โดยใช้ JSON-like format ที่เรียกว่า BSON (Binary JSON) ทำให้เหมาะกับการจัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะไม่เป็นตาราง (non-relational data) ในตัว MongoDB เอง เราสามารถจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ collections และ documents ซึ่งเราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ในบทความนี้ จะใช้ไลบรารีที่ชื่อว่า `mongo` เพื่อเชื่อมต่อและจัดการกับ MongoDB ผ่าน Ruby
ก่อนที่เราจะเริ่มเขียนโค้ดกัน ขอให้คุณได้ติดตั้ง MongoDB และไรบรารี `mongo` ใน Ruby กันก่อน
1. ติดตั้ง MongoDB: คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง MongoDB ได้จาก [เว็บไซต์ทางการของ MongoDB](https://www.mongodb.com/try/download/community) 2. ติดตั้ง Ruby และ Bundler: คุณสามารถติดตั้ง Ruby ได้จาก [เว็บไซต์ทางการของ Ruby](https://www.ruby-lang.org/en/downloads/) และใช้คำสั่ง `gem install bundler` เพื่อติดตั้ง Bundler 3. สร้างโปรเจกต์ใหม่: สร้างโฟลเดอร์ใหม่สำหรับโปรเจกต์ของคุณ เช่น `mongodb_ruby_example` จากนั้นใช้คำสั่ง `bundle init` เพื่อสร้างไฟล์ `Gemfile` 4. เพิ่มไลบรารี Mongo: เปิดไฟล์ `Gemfile` แล้วเพิ่มบรรทัดนี้เข้าไป:```ruby
gem 'mongo'
```
5. ติดตั้งไลบรารี: รันคำสั่ง `bundle install` เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งไลบรารี
การเชื่อมต่อ MongoDB
หลังจากที่ติดตั้งทุกอย่างเสร็จแล้ว ขั้นตอนแรกคือการเชื่อมต่อกับ MongoDB ดังนี้:
ในโค้ดด้านบน เราใช้ไลบรารี `mongo` เพื่อเชื่อมต่อกับ MongoDB ที่ทำงานอยู่บน localhost (127.0.0.1) ที่พอร์ต 27017 และเลือกใช้ฐานข้อมูลชื่อว่า `test`
การสร้าง Collection และเพิ่มข้อมูล
หลังจากที่เราเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลแล้ว เราสามารถสร้าง collection และเพิ่มข้อมูลได้ ดังนี้:
ที่นี่เราได้สร้าง collection ชื่อว่า `users` และเพิ่มข้อมูลเข้ารายการใหม่ โดยใช้เมธอด `insert_one` สำหรับการเพิ่มข้อมูลแบบหนึ่งรายการ
การค้นหาข้อมูล
การค้นหาข้อมูลภายใน MongoDB ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย โดยใช้ `find` ตัวอย่างเช่น:
เราจะใช้คำสั่ง `find` เพื่อค้นหาทั้งหมดใน `users` collection และแสดงรายละเอียดของแต่ละผู้ใช้
การอัปเดตข้อมูล
ถ้าคุณต้องการแก้ไขข้อมูลใน MongoDB คุณสามารถใช้ `update_one` หรือ `update_many` เพื่อทำการอัปเดตข้อมูล เช่น:
ในที่นี้ เราทำการอัปเดตอายุของผู้ใช้ที่ชื่อว่า "John Doe" เป็น 31 ปี
การลบข้อมูล
หากต้องการลบข้อมูล สามารถใช้ `delete_one` หรือ `delete_many` ได้:
ที่นี่เราได้ทำการลบข้อมูลผู้ใช้ที่ชื่อว่า "John Doe" ออกจาก collection
ลองนึกถึงภาพรวมของการสร้าง RESTful API สำหรับระบบจัดการผู้ใช้งานที่ใช้ MongoDB และ Ruby Sinatra ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถทำ CRUD (Create, Read, Update, Delete) ได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างโค้ดอาจจะมีลักษณะดังนี้:
นี่คือโค้ดของ RESTful API ที่สามารถจัดการผู้ใช้อย่างครบวงจร โดยใช้ `Sinatra` ร่วมกับ `MongoDB` ผ่าน `mongo` gem
MongoDB เป็นฐานข้อมูลที่เหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลโดยไม่ต้องเป็นไปตามรูปแบบ relational database ดังนั้น การเรียนรู้การใช้งาน MongoDB ร่วมกับ Ruby จึงเป็นความรู้ที่สำคัญสำหรับนักพัฒนาในยุคนี้
หากคุณสนใจกับการเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมมากขึ้น อย่าลืมเข้าร่วมเรียนรู้ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณอย่างมืออาชีพ! การเรียนรู้ไปกับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจและนำความรู้ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!เรียนรู้ด้วยกันที่ EPT แล้วมาสร้างผลงานเจ๋งๆ ด้วยการเขียนโปรแกรมกันเถอะ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM