การค้นหารายการในข้อมูลจำนวนมากนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลมีจำนวนมากมายทุกวัน การค้นหาข้อมูลที่รวดเร็วถูกพัฒนามาหลากหลายวิธี หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมในวงการคอมพิวเตอร์คือ Binary Search หรือการค้นหาฐานสอง ซึ่งเป็นอัลกอริธึมที่มีประสิทธิภาพสูงในการค้นหาข้อมูลในลิสต์ที่เรียงลำดับแล้ว ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ Binary Search พร้อมทั้งยกตัวอย่าง โดยใช้ภาษา Ruby
Binary Search เป็นอัลกอริธึมที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลในลิสต์ที่ถูกจัดเรียงแล้ว โดยวิธีการทำงานคือการแบ่งลิสต์ออกเป็นสองส่วนและทำการตรวจสอบว่าข้อมูลที่เราต้องการอยู่ในครึ่งซ้ายหรือครึ่งขวา โดยที่ความซับซ้อนเวลาของอัลกอริธึมนี้อยู่ที่ O(log n) ซึ่งทำให้มันมีประสิทธิภาพมากกว่าการค้นหาแบบเชิงเส้น (Linear Search) ที่มักจะมีความซับซ้อนเป็น O(n)
ขั้นตอนการทำงานของ Binary Search
1. เริ่มต้น กำหนดค่าต่ำสุด (low) และสูงสุด (high) ของลิสต์ 2. คำนวณกลาง (mid) โดยใช้สูตร `(low + high) / 2` 3. ตรวจสอบค่าที่กลาง หากมันตรงกับค่าที่เราต้องการ ก็ดับเบิลคลิกออกไป 4. อัปเดต ค่าต่ำสุดหรือสูงสุด ตามค่าที่เราต้องการอยู่มากหรือน้อยกว่า midpoint5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-4 จนกว่าจะพบค่าที่ค้นหาหรือไม่พบค่าที่ต้องการในลิสต์
มาดูตัวอย่างโค้ด Ruby ที่จะนำเสนอการทำงานของ Binary Search:
ในตัวอย่างข้างต้น เราสร้างฟังก์ชัน `binary_search` ที่มีพารามิเตอร์เป็นอาเรย์เรียงลำดับและค่าที่เราต้องการค้นหา ผลลัพธ์จะเป็นตำแหน่งของค่าที่เราเจอในอาเรย์ ถ้าไม่ได้ผลลัพธ์จะเป็น -1
การค้นหาฐานสองใช้ในหลายด้าน ตัวอย่างเช่น:
1. การค้นหาผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูล: เวลาเราใช้เว็บไซต์ขายของออนไลน์ เรามักจะค้นหาผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูลที่มีการจัดเรียงหมวดหมู่ไว้แล้ว สิ่งนี้ทำให้สามารถนำ Binary Search มาช่วยค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว 2. การค้นหาบันทึกในระบบ: ในระบบที่มีการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก เช่น การค้นหาบันทึกในระบบโรงเรียน อาจจะต้องใช้ Binary Search เพื่อให้ค้นหาข้อมูลนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Binary Search มีการวิเคราะห์ความซับซ้อนได้ดังนี้:
- Time Complexity: O(log n) ซึ่งจะทำให้ค้นหาได้รวดเร็วมากเมื่อเทียบกับ O(n) ของ Linear Search - Space Complexity: O(1) ถ้าดำเนินการโดยการทำการค้นหาในอาเรย์โดยตรงสำหรับโปรแกรมที่ต้องการใช้ประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลอันมากมาย Binary Search ย่อมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน
ข้อดี
- รวดเร็ว: มีความเร็วในการค้นหาข้อมูลที่ดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับการค้นหารูปแบบอื่น - เรียบง่าย: มีโครงสร้างทางมันตรการที่เข้าใจง่าย ประยุกต์ใช้ได้ง่ายข้อเสีย
- ต้องการข้อมูลที่เรียงลำดับ: Binary Search จะไม่สามารถใช้ได้หากข้อมูลไม่ได้มีการจัดเรียงไว้ก่อนแล้ว - กับข้อมูลที่เปลี่ยนแปลง: การเรียงลำดับข้อมูลต้องทำซ้ำเมื่อข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจทำให้เสียเวลา
Binary Search เป็นอัลกอริธึมที่มีประสิทธิภาพสูงในการค้นหาข้อมูลในลิสต์ที่ถูกจัดเรียงแล้ว ด้วยความซับซ้อนเวลาเพียง O(log n) มันเป็นตัวเลือกหลักในการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการค้นหาข้อมูลในจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ธุรกิจ ระบบสารสนเทศ องค์กร หรือแม้กระทั่งในการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Programming อย่างละเอียดและต้องการพัฒนาทักษะด้านการเขียนโค้ด คุณสามารถเข้ามาศึกษาที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่นี่เรามีคอร์สการสอนที่หลากหลายให้คุณเลือกเรียนรู้ พร้อมทั้งมีผู้สอนที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM