ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การเขียนโปรแกรมไม่ใช่เพียงแต่เป็นวิชาที่สำคัญในด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่ทุกคนสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจในแทบทุกด้าน
ในบทความนี้เราจะสำรวจแนวคิดของ Object-Oriented Programming (OOP) โดยเฉพาะเกี่ยวกับ Accessibility ในภาษา Haskell ซึ่งถือเป็นภาษาที่มีลักษณะแตกต่างจากภาษา OOP อื่น ๆ แต่ก็สามารถนำแนวคิดบางประการมาประยุกต์ใช้งานได้
OOP เป็น paradigms ในการพัฒนาโปรแกรมที่มีหลักการหลักได้แก่ Encapsulation, Inheritance, Polymorphism และ Abstraction โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Accessibility หรือการเข้าถึง โดยปกติแล้วเราจะแบ่งการเข้าถึงออกเป็น 3 ประเภทหลักคือ public, private, และ protected
- Public: สมาชิกของ class ที่สามารถเข้าถึงได้จากภายนอก - Private: สมาชิกของ class ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ภายนอก - Protected: สมาชิกที่สามารถเข้าถึงได้จาก class ภายในและ class ที่สืบทอดใน Haskell นั้นไม่มี classในทางนิยามเหมือน Java หรือ C++, แต่เรายังคงสามารถแสดงแนวคิด OOP และ Accessibility ผ่านทาง type และ modules ได้
ในการสร้าง Data Type พื้นฐานใน Haskell เราใช้ `data` ในการประกาศ type นั้นๆ ให้ง่ายที่สุดเรามาสร้างเราคลาส `Rectangle` ที่มีสมาชิกเป็นความกว้าง และความยาว ตัวอย่างโค้ดมีดังนี้:
อธิบายโค้ด
ในโค้ดด้านบน เราได้ประกาศ data type ชื่อว่า `Rectangle` โดยมีสมาชิกคือ `width` และ `height` เราได้กำหนดฟังก์ชัน `area` เพื่อคำนวณพื้นที่ของสี่เหลี่ยมผืนผ้า
รหัสที่เราใช้ยังสามารถเข้าถึง `width` และ `height` ได้ แต่ไม่สามารถกำหนดค่าใหม่ให้กับสมาชิกนี้นอกประเภท `Rectangle` ได้ ดังนั้นจึงสามารถมองว่า `width` และ `height` เป็นข้อมูลที่มีความเป็นส่วนตัวหรือ private ในทาง OOP
เพื่อให้ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าใจ เรามาจัดเตรียมการใช้งานกันดีกว่า:
อธิบายการทำงาน
ในโค้ดนี้ เราได้เรียกใช้โมดูล `Rectangle` ที่เราได้สร้างขึ้น หลังจากนั้นเราก็สร้าง instance ของ `Rectangle` และใช้ฟังก์ชัน `area` เพื่อแสดงผลพื้นที่ของสี่เหลี่ยมผืนผ้าผ่าน console
การใช้งาน Accessibility นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโลกจริงได้หลากหลาย เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชันทางการแพทย์ เช่น ระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งต้องมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วย ในกรณีนี้ ฟังก์ชันของเราสามารถควบคุมให้ข้อมูลถูกเข้าถึงได้เฉพาะนักแพทย์หรือนักพยาบาลเท่านั้น และต้องทำการแยกประเภทข้อมูลที่สามารถแสดงหรือเข้าถึงได้จึงจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
การนำแนวคิด OOP มาประยุกต์ใช้ใน Haskell สามารถทำได้แม้ว่า Haskell จะเป็นภาษา Functional Programming หลัก แต่เรายังสามารถใช้ Data Types, modules พร้อมกับแนวคิด Accessibility เพื่อให้สามารถสร้างโปรแกรมที่มีการจัดการข้อมูลในลักษณะที่ปลอดภัยและมีระเบียบ
หากคุณต้องการเรียนรู้แนวคิดการเขียนโปรแกรมเช่นนี้และอีกมากมาย อย่าลืมเข้าร่วมการเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะในการเขียนโปรแกรมให้กับคุณและเปิดประตูสู่โลกของเทคโนโลยีอย่างไม่เคยมีมาก่อน!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM