การจัดเรียงข้อมูล (Sorting) เป็นหัวข้อสำคัญในการเขียนโปรแกรม และหนึ่งในวิธีการจัดเรียงที่อยู่คู่กับนักพัฒนามาอย่างยาวนานคือ "Selection Sort" บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Selection Sort ผ่านภาษา Haskell พร้อมการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมและประโยชน์ในโลกแห่งความจริง
Selection Sort เป็นอัลกอริธึมการจัดเรียงแบบพื้นฐานที่ใช้งานง่าย ลักษณะการทำงานของมันคือการแบ่งข้อมูลออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่จัดเรียงแล้วและส่วนที่ยังจัดเรียงไม่ได้ โดยจะทำการค้นหาค่าที่เล็กที่สุด (หรือตัวใหญ่ที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าจัดเรียงจากน้อยไปมากหรือจากมากไปน้อย) จากส่วนที่ยังไม่ได้จัดเรียง แล้วย้ายค่าที่ค้นพบนี้ไปยังขอบเขตของส่วนที่เรียงแล้ว
1. เริ่มจากข้อมูลทั้งหมด สถานะยังไม่ได้จัดเรียง
2. หาค่าต่ำสุดจากส่วนที่ยังไม่ได้จัดเรียง
3. สลับค่าต่ำสุดกับค่าที่อยู่ที่ตำแหน่งเริ่มต้นของส่วนที่ยังไม่ได้จัดเรียง
4. ย้ายขอบเขตของส่วนที่เรียงแล้วไปทางขวา
5. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-4 จนกว่าทุกค่าจะถูกจัดเรียง
โค้ดด้านบนคือฟังก์ชั่น `selectionSort` ที่ใช้การจัดเรียงรายการแบบ Selection Sort ในภาษา Haskell โดยใช้ฟังก์ชัน `minimum` ในการหาค่าที่เล็กที่สุดในรายการ และใช้ `filter` ในการสร้างรายการที่ไม่มีค่าต่ำสุดเพื่อดำเนินการซ้ำ
Selection Sort ไม่ได้เหมาะสำหรับชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มาก แต่เราสามารถเห็นการใช้งานในหลายกรณี เช่น:
- การจัดเรียงข้อมูลในผู้ใช้โปรแกรมจำกัด: ใช้ในสถานการณ์ที่มีข้อมูลจำนวนน้อย เช่น เลือกรายชื่อผู้ติดต่อเพื่อนำเสนอบนหน้าจอ - การสอนโครงสร้างข้อมูล: เป็นอัลกอริธึมพื้นฐานที่นักเรียนสามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับการจัดเรียง
เวลา (Time Complexity)
- Best Case: O(n^2) - Average Case: O(n^2) - Worst Case: O(n^2)เนื่องจาก Selection Sort จำเป็นต้องทำการค้นหาค่าที่เล็กที่สุดในแต่ละรอบ จึงทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ในระดับ O(n²)
พื้นที่ (Space Complexity)
- Space Complexity: O(1)เนื่องจาก Selection Sort ใช้พื้นที่เสริมเพียงเล็กน้อยในการเก็บค่าถึงแม้ว่ารายการทั้งหมดยังจะอยู่ในตำแหน่งเดิม
ข้อดี:
1. เข้าใจง่าย: Selection Sort มีขั้นตอนที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย 2. ใช้พื้นที่น้อย: ไม่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมในรูปแบบของ Array หรือ Listข้อเสีย:
1. ความเร็วต่ำ: ความเร็วในการจัดเรียงต่ำเมื่อเทียบกับอัลกอริธึมที่ใหม่กว่าอย่าง Quicksort หรือ Mergesort 2. ไม่เหมาะกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่: เมื่อจำนวนข้อมูลเพิ่มขึ้น เวลาในการดำเนินการก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ
แม้ว่า Selection Sort จะไม่ได้เป็นอัลกอริธึมยอดนิยมในปัจจุบันด้วยเหตุผลด้านประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีความสำคัญในเชิงการศึกษา และช่วยในการสร้างพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการจัดเรียง กว่า 1,500 คำที่เราได้เรียนรู้กันนี้เป็นการสื่อถึงความสำคัญของการตัดสินใจเลือกอัลกอริธึมที่ถูกต้องตามลักษณะของข้อมูลที่จัดการ
หากคุณต้องการเจาะลึกเรียนรู้การเขียนโปรแกรมและการใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา สามารถศึกษาต่อได้ที่ EPT ที่นี่คุณจะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติในแบบที่มีชีวิตชีวา ยกตัวอย่าง และยังมีโค้ชที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา! อย่าลืมติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มที่ EPT นะครับ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM