ในโลกของการเขียนโปรแกรม การเรียงลำดับข้อมูลเป็นทักษะที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในโลกของข้อมูลที่มีจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในอัลกอริธึมที่ง่ายและเข้าใจได้ง่ายในการจัดเรียงข้อมูลนั้นก็คือ Selection Sort มาร่วมกันค้นพบว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง และดูโค้ดตัวอย่างในภาษา Scala พร้อมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียและ Complexity กันเถอะ!
Selection Sort เป็นอัลกอริธึมการจัดเรียงประเภทที่มีจุดเด่นในความเรียบง่ายและใช้งานง่าย เนื่องจากมันทำงานด้วยการแบ่งข้อมูลออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่เรียงแล้วและยังไม่ได้เรียง การทำงานของมันจะดูเล็กน้อยคล้ายกับการเลือกวัตถุจากกลุ่มใหญ่ๆ ว่าในแต่ละรอบให้เลือกค่าที่เล็กที่สุดจากกลุ่มข้อมูลที่ยังไม่ได้เรียงขึ้นมาไว้ในส่วนที่เรียงแล้ว และทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกเรียงลำดับเสร็จสิ้น
1. เริ่มต้นที่ค่าแรกของอาร์เรย์ เราจะถือค่าที่ต่ำที่สุดในอาร์เรย์นี้
2. วิเคราะห์ค่าที่เหลือในอาร์เรย์เพื่อหาค่าต่ำสุดในกลุ่มที่ยังไม่ได้เรียง
3. สลับค่าที่ต่ำที่สุดที่เจอเข้าไปในตำแหน่งแรกที่ยังไม่ได้เรียง
4. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-3 จนกว่าทุกค่าจะถูกเรียงแล้ว
มาดูโค้ดตัวอย่างการทำงานของอัลกอริธึม Selection Sort ในภาษา Scala กัน:
ในโค้ดข้างต้น เราได้สร้างฟังก์ชัน `selectionSort` ซึ่งใช้ในการจัดเรียงอาร์เรย์ เราเริ่มต้นที่ตำแหน่งแรก จากนั้นสำรวจค่าที่เหลือเพื่อค้นหาค่าต่ำสุดและทำการสลับ เมื่อเรียงเสร็จ เราจะได้ข้อมูลที่ถูกจัดเรียงตามลำดับเลขจากน้อยไปหามาก
Selection Sort อาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมี use case ที่สามารถใช้ได้ โดยหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเรียงลำดับของข้อมูลที่มีขนาดเล็ก เช่น การจัดเรียงคะแนนของนักเรียนในห้องเล็กๆ หรือการจัดเรียงรายการสินค้าในร้านค้าที่มีจำนวนสินค้าน้อย
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียนในชั้นเรียนซึ่งมีเพียง 10 คน การใช้ Selection Sort เพื่อเรียงลำดับคะแนนจากน้อยไปหามากอาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากความเรียบง่ายในการเขียนและเข้าใจ
- เวลา (Time Complexity): O(n^2) ซึ่งเป็นการประเมินความซับซ้อนในกรณีแย่ เมื่อ n เป็นจำนวนข้อมูลในอาร์เรย์
- หน่วยความจำ (Space Complexity): O(1) เนื่องจากไม่ต้องใช้หน่วยความจำเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเปลี่ยนตำแหน่งค่า
2. ข้อดี:- เรียบง่ายและเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับการสอนและเริ่มต้นเรียนรู้การจัดเรียงข้อมูล
- ทำงานในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการจำนวนมากของข้อมูล มีประสิทธิภาพเมื่อใช้งานกับอาร์เรย์ขนาดเล็ก
3. ข้อเสีย:- มีความไม่เหมาะสมในกรณีที่ขนาดข้อมูลใหญ่ เนื่องจากเวลาในการทำงานจะหลายเท่าตัว (O(n^2))
- การทำงานมีลักษณะที่ไม่จำกัด (In-place) และไม่เสถียร อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการจัดเรียงเนื่องจากการเปลี่ยนตำแหน่ง
มาร่วมกันพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณที่ EPT และเรียนรู้เทคนิคการเรียงลำดับและอื่นๆ ที่จะทำให้คุณเป็นโปรแกรมเมอร์ที่มีความรู้และทักษะมากยิ่งขึ้น!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM