เรียนรู้ Selection Sort กับภาษา VBA: อัลกอริธึมที่ควรรู้จัก

 

การจัดเรียงข้อมูลเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมและการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เราต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมากในแต่ละวัน หนึ่งในอัลกอริธึมการจัดเรียงที่ง่ายและน่าสนใจที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้คือ Selection Sort อัลกอริธึมนี้ไม่เพียงแต่ใช้งานง่ายเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะที่ช่วยให้เราเข้าใจวิธีการทำงานของการจัดเรียงอย่างเป็นระบบ

 

Selection Sort คืออะไร?

Selection Sort เป็นอัลกอริธึมการจัดเรียงที่ทำงานด้วยวิธีการเลือกค่าต่ำสุดจากข้อมูลที่ยังไม่ได้จัดเรียง เพื่อแลกเปลี่ยนตำแหน่งกับค่าที่อยู่ด้านหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คืออาร์เรย์ที่ถูกจัดเรียงจากน้อยไปหามาก ในการทำงานจะใช้เวลาประมาณ O(n^2) ซึ่งหมายความว่าเวลาในการประมวลผลจะเพิ่มขึ้นตามสี่เหลี่ยมของจำนวนข้อมูล

 

ขั้นตอนการทำงาน

1. เริ่มต้นมองหาค่าต่ำสุดในอาร์เรย์ที่ยังไม่ได้ถูกจัดเรียง

2. สลับค่าต่ำสุดที่หาได้กับตำแหน่งเริ่มต้น

3. เลื่อนตำแหน่งไปยังส่วนถัดไปจากนั้นเริ่มทำขั้นตอนที่ 1 ใหม่จนกว่าจะผ่านอาร์เรย์ทั้งหมด

 

ตัวอย่างโค้ดในภาษา VBA

เรามาดูตัวอย่างการเขียนโค้ด Selection Sort ในภาษา VBA กัน:

 Sub SelectionSort()
    Dim arr() As Variant
    Dim i As Long, j As Long
    Dim minIndex As Long
    Dim temp As Variant

    ' กำหนดอาร์เรย์ตัวอย่าง
    arr = Array(64, 25, 12, 22, 11)

    ' วนลูปผ่านอาร์เรย์
    For i = LBound(arr) To UBound(arr) - 1
        minIndex = i
        For j = i + 1 To UBound(arr)
            If arr(j) < arr(minIndex) Then
                minIndex = j
            End If
        Next j
        ' สลับค่าต่ำสุดกับค่าที่อยู่ด้านหน้า
        If minIndex <> i Then
            temp = arr(i)
            arr(i) = arr(minIndex)
            arr(minIndex) = temp
        End If
    Next i

    ' แสดงผลลัพธ์
    For i = LBound(arr) To UBound(arr)
        Debug.Print arr(i)
    Next i
End Sub

 

Use Case ในโลกจริง

ตัวอย่าง: แสดงการจัดเรียงคะแนนสอบ

หากคุณเป็นอาจารย์ที่กำลังจะต้องเรียงคะแนนสอบของนักเรียนในชั้นเรียน คุณสามารถใช้ Selection Sort เพื่อจัดเรียงคะแนนจากน้อยไปหามากได้อย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มโค้ดนี้เข้ากับโปรแกรม Excel ของคุณได้เลย การจัดเรียงนี้จะทำให้ง่ายในการวิจัย หรือการทำสถิติผลการเรียน

 

การวิเคราะห์ Complexity ของ Selection Sort

Complexity:

O(n^2) - Best Case: O(n^2) (เมื่อข้อมูลมีการจัดเรียงแล้ว) - Average Case: O(n^2) - Worst Case: O(n^2)

เนื่องจาก Selection Sort ต้องทำการวนลูปสองชั้น นั่นคือการมองหาค่าต่ำสุดสำหรับทุกค่าของอาร์เรย์ มันจึงมีความไม่เหมาะสมสำหรับการจัดเรียงข้อมูลขนาดใหญ่ โดยอาจทำงานได้ช้าเมื่อมีข้อมูลจำนวนมาก

 

ข้อดีและข้อเสียของ Selection Sort

ข้อดี:

- ง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้

- ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลน้อย (O(1) สำหรับการจัดเก็บชั่วคราว)

- สะดวกในการใช้งานสำหรับปัญหาขนาดเล็ก

ข้อเสีย:

- มีประสิทธิภาพต่ำเมื่อเทียบกับอัลกอริธึมที่ซับซ้อนอื่นๆ เช่น Quick Sort และ Merge Sort

- การจัดเรียงข้อมูลจำนวนมากทำให้มีเวลาในการประมวลผลที่ยาวนาน

 

สรุป

Selection Sort เป็นอัลกอริธึมที่มีความเรียบง่ายและสามารถนำไปใช้งานได้ แต่หากคุณสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาโปรแกรมในการทำงานกับข้อมูลจำนวนมากและวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอเชิญคุณไปศึกษาที่ EPT (Expert-Programming-Tutor)! ที่นี่เรามีหลักสูตรที่จะสอนคุณถึงเทคนิคต่างๆ ในการเขียนโปรแกรมและการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าที่คุณจะคาดคิด!

มาทำให้การเขียนโปรแกรมกลายเป็นเรื่องสนุกกันเถอะ!

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง