ในปัจจุบันการพัฒนาโปรแกรมนั้นมีเครื่องมือและภาษาโปรแกรมที่มีความหลากหลายมาก แต่ในบรรดาภาษาเหล่านั้น ภาษา R มีความโดดเด่นในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างภาพข้อมูล ด้วยความง่ายในการใช้งานและสามารถประยุกต์ไปใช้ได้หลากหลายประการ หนึ่งในแนวคิดสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมก็คือ OOP (Object-Oriented Programming) ซึ่งจะช่วยให้การเขียนโค้ดมีความปลอดภัยและเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามี “Accessibility” หรือการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นหัวใจสำคัญใน OOP Concept ที่เราจะมาคุยกันในวันนี้
หลักการ OOP ประกอบไปด้วย 4 แนวคิดหลัก ได้แก่ Encapsulation, Abstraction, Inheritance, และ Polymorphism ซึ่ง Accessibility หรือการเข้าถึงตัวแปรหรือฟังก์ชั่นภายใน Class จะถูกจัดอยู่ภายใต้แนวคิด Encapsulation ซึ่งหมายถึงการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและฟังก์ชั่นภายในคลาสไม่ให้เข้าถึงได้โดยตรงจากภายนอกแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น
ใน R language นั้นแม้จะไม่ได้มีการจัดการ Accessibility ไปในทิศทางเดียวกับอลกอริธึม OOP ของภาษาอื่น ๆ อย่าง Java หรือ C# แต่ R ก็มีวิธีการที่จะควบคุมการเข้าถึงตัวแปรได้โดยการใช้ `private` และ `public` ซึ่งจัดว่าเป็นหลักการที่จำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยและการทำงานร่วมกันในโปรแกรม
มาลองดูโค้ดตัวอย่างการสร้าง Class ที่ควบคุม Accessibility กันดีกว่า
อธิบายการทำงาน
ในโค้ดตัวอย่างนี้ เราสร้าง Class สำหรับการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล (Person) โดยใน Class มีตัวแปร `name` และ `age` รวมทั้งมีเมธอด (method) ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ มีเมธอด `getName` และ `getAge` สำหรับการเข้าถึงข้อมูลในเชิง read-only ซึ่งคล้ายกับการทำให้ข้อมูลเป็น `public` ในขณะที่เมธอด `setName` และ `setAge` เป็นตัวควบคุมการตั้งค่าข้อมูลในเชิง write มีการป้องกันการตั้งค่าอายุเป็นค่าลบ ซึ่งเป็นการรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลในโปรแกรม
เพื่อที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งาน OOP และ Accessibility ในโลกจริง ลองนึกถึงระบบการจัดการการลงทะเบียนนักเรียนในโรงเรียน ระบบนี้จะต้องมีการจัดการข้อมูลส่วนตัวของนักเรียน เช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด และรายละเอียดอื่น ๆ
- Privacy Data: ข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนต้องได้รับการป้องกันไม่ให้เข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง การใช้ OOP จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนนี้ปลอดภัย - การตรวจสอบความถูกต้อง: ก่อนที่จะอัปเดตข้อมูลของนักเรียน ระบบต้องมีการตรวจสอบความถูกต้อง เช่น อายุไม่สามารถเป็นค่าลบ ดังนั้นการใช้เมธอดที่ควบคุมการเข้าถึงจึงสำคัญมาก
การใช้ Accessibility ใน OOP Concept เป็นแนวทางที่ดีในทุกภาษาโปรแกรม รวมถึง R เพื่อช่วยให้สามารถสร้างโปรแกรมที่ปลอดภัยและสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวอย่างที่เรานำเสนอในวันนี้หวังว่าจะทำให้ท่านเห็นภาพการทำงานของ Accessibility ใน OOP มากขึ้น
หากท่านกำลังสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและแนวคิด OOP พร้อมภาษา R สามารถเข้าศึกษาได้ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ซึ่งเรามีหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ท่านเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่ารอช้า! มาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาทักษะด้านการเขียนโปรแกรมให้แข็งแกร่งที่สุด ไปด้วยกันกับ EPT!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM