Memcached เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพสูง ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การค้นหาข้อมูลเร็วขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ผลลัพธ์ของการคำนวณที่ต้องใช้เวลานานในการสร้าง หากคุณกำลังพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องใช้การเข้าถึงข้อมูลซ้ำ ๆ Memcached สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้การเขียน Code CRUD (Create, Read, Update, Delete) โดยใช้ภาษา R กัน
ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเขียน Code เรามาทำความเข้าใจกับความสำคัญของ Memcached กันก่อนนะคะ การใช้ Memcached จะช่วยลดภาระในการเข้าถึงฐานข้อมูล โดยการเก็บข้อมูลที่เข้าถึงบ่อย ๆ ในหน่วยความจำ ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าเมื่อเทียบกับการเข้าถึงฐานข้อมูลโดยตรง ทำให้แอปพลิเคชันของคุณตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น
1. ติดตั้ง Memcached
คุณสามารถติดตั้ง Memcached บนเครื่องของคุณได้โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ใน terminal (สำหรับ Ubuntu):
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้เริ่มเซอร์วิส Memcached ด้วยคำสั่ง:
2. ติดตั้ง R และแพ็กเกจที่จำเป็น
คุณต้องมี R ติดตั้งอยู่ในเครื่องของคุณ หากคุณยังไม่มี R สามารถดาวน์โหลดได้จาก [CRAN](https://cran.r-project.org/)
ทันทีที่คุณติดตั้ง R เสร็จแล้ว ให้ติดตั้งแพ็กเกจ `rmemcache` ซึ่งเป็นตัวที่จะใช้ในการเรียกใช้งาน Memcached:
ต่อไปเราจะมาเขียนตัวอย่าง Code CRUD โดยใช้ R กับ Memcached
1. เชื่อมต่อกับ Memcached
การเชื่อมต่อกับ Memcached ทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน `rmemcache::memCache()`
2. Create (สร้างข้อมูล)
การสร้างข้อมูลใหม่ใน Memcached สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน `set()`
3. Read (อ่านข้อมูล)
การอ่านข้อมูลที่เก็บไว้ใน Memcached สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน `get()`
4. Update (อัปเดตข้อมูล)
การอัปเดตข้อมูลก็ง่ายมาก แค่ใช้ฟังก์ชัน `set()` อีกครั้ง พร้อมกับข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่
5. Delete (ลบข้อมูล)
การลบข้อมูลที่เก็บอยู่ใน Memcached สามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน `delete()`
ลองจินตนาการถึงโปรเจ็กต์ที่ใช้ Memcached ในการเก็บข้อมูลผู้ใช้ เช่น เว็บไซต์ที่มีการลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ คุณสามารถใช้ Memcached เพื่อเก็บข้อมูลของผู้ใช้เมื่อพวกเขาเข้าสู่ระบบ ซึ่งสามารถเรียกใช้ข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเข้าถึงฐานข้อมูลทุกครั้ง
ตัวอย่างการใช้งาน Memcached มีดังนี้:
1. เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียน ระบบจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ใน Memcached
2. เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบ ระบบจะตรวจสอบข้อมูลใน Memcached ว่ามีอยู่หรือไม่
3. หากมีข้อมูลจะใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อลดเวลาการเข้าถึง
4. หากเป็นการอัปเดตข้อมูล ผู้ดูแลระบบสามารถใช้ Memcached เพื่อเก็บข้อมูลล่าสุด
Memcached เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้อมูลที่เข้าถึงบ่อยในเวลา เมื่อใช้ R ในการเขียน Code CRUD ควบคู่กับ Memcached ก็ทำให้การจัดการข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้การเข้าใจการทำงานของ Memcached จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนา
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะด้านโปรแกรมมิ่งและเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่าง ๆ มาเรียนรู้ที่ EPT (Expert Programming Tutor) กันเถอะ! ที่นี่เรามีคอร์สที่ครอบคลุมทุกด้านของโปรแกรมมิ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน สร้างอนาคตในสายงานไอทีที่คุณใฝ่ฝันได้ที่ EPT!
---
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้งาน Memcached และ R ได้ดียิ่งขึ้น ถ้าคุณสนใจในการเรียนรู้อีกมากมายเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม อย่าลืมลงทะเบียนที่ EPT นะคะ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM