ในโลกของการพัฒนาโปรแกรมทุกวันนี้ ฐานข้อมูล (Database) มีความสำคัญอย่างมาก แต่หมวดหมู่การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นที่นิยมอีกประเภทหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จัก นั่นคือ "Memcache" ซึ่งเป็นการจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ (In-memory) ที่มีความเร็วสูง เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับฐานข้อมูลทั่วไป วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและเรียนรู้การเขียน CRUD (Create, Read, Update, Delete) กับ Memcache โดยใช้ภาษา Kotlin ที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
Memcached เป็นระบบการจัดการข้อมูลที่ทำงานในรูปแบบของ distributed memory object caching system โดยมีหน้าที่หลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูล โดยการจัดเก็บข้อมูลที่มีการเข้าถึงบ่อย ๆ ลงใน memory แทนการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการเข้าถึงและลดภาระการทำงานของฐานข้อมูลหลัก
Use Cases:
1. การเก็บข้อมูล session ของผู้ใช้
2. การเก็บผลลัพธ์ Query ที่ใช้ซ้ำบ่อย ๆ
3. การเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นค่าคงที่
ก่อนที่เราจะเริ่มเขียนโค้ด เราต้องติดตั้ง Memcached ก่อน โดยสามารถติดตั้งผ่าน apt หรือ brew ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ เช่น:
สำหรับ Ubuntu/Debian:
สำหรับ macOS:
หลังจากนั้นให้เริ่มบริการ Memcached:
(โดย `-m` หมายถึงจำนวนหน่วยความจำที่จัดสรรให้ Memcached)
ในตัวอย่างนี้เราจะใช้ Kotlin เพื่อเชื่อมต่อกับ Memcached เราจะใช้ไลบรารี `spymemcached` ซึ่งเป็นคลาสไลบรารีสำหรับใช้งาน Memcached ในภาษา Java และ Kotlin
1. เพิ่ม Dependency ในโปรเจค
เราต้องเพิ่ม dependency นี้ในไฟล์ `build.gradle` ของโปรเจค Kotlin ของเรา:
2. การเชื่อมต่อกับ Memcached
หลังจากติดตั้งและตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย เรามาเริ่มเขียน code ควบคุม Memcached กันเลยดีกว่า:
การอธิบาย Code
1. Create: เราสามารถใช้ `client.set` ในการเก็บค่าใหม่ลงใน Memcached โดยเราตั้ง key เป็น "key1" และกำหนดเวลาในการหมดอายุเป็น 3600 วินาที (1 ชั่วโมง) 2. Read: ใช้ `client.get()` เพื่อดึงค่าที่เราเก็บไว้มา 3. Update: สำหรับการอัปเดตค่าใช้ `client.replace()` เพื่อแทนที่ค่าที่มีอยู่ใน key เดิม 4. Delete: ใช้ `client.delete()` เพื่อลบข้อมูลออกจาก Memcachedสรุป
Memcached เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการทำงานอย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ประสิทธิภาพสูงได้ ในตัวอย่างที่เรายกมานี้ก็แสดงให้เห็นว่า การใช้งาน Memcached ร่วมกับ Kotlin เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก
ทำไมถึงควรศึกษาการเขียนโปรแกรม?
การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมจะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานในยุคดิจิทัล นอกจากนี้การมีทักษะในการเขียนโปรแกรมยังเอื้อให้เราพัฒนาตนเองในสายงานต่าง ๆ ตั้งแต่การเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ จนถึงการเป็นนักวิจัยข้อมูล
หากคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม สามารถสมัครเรียนที่ EPT (Expert Programming Tutor) ซึ่งมีหลักสูตรสอนหลากหลาย ทั้งระดับเริ่มต้นถึงระดับสูง พร้อมกับการสอนแบบมีการปฏิบัติจริงและได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
ร่วมสร้างอนาคตของคุณในวงการเทคโนโลยีกับเราได้ที่ EPT! เริ่มต้นเรียนรู้กับเราและเติบโตไปด้วยกันในโลกแห่งการเขียนโปรแกรม!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM