ในโลกปัจจุบัน การพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันมีความจำเป็นที่จะต้องรองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Concurrent processing) หรือต้องการให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่รวดเร็วและหลีกเลี่ยงการค้างอยู่ในหน้าจอ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ภาษา Kotlin มีความสามารถในการใช้งาน Async เพื่อช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมของเราง่ายขึ้น ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจ Async ใน Kotlin แบบง่าย พร้อมตัวอย่างโค้ดและอธิบายการทำงาน รวมถึง use case ที่น่าสนใจในโลกจริง
Async (Asynchronous Programming) คือแนวทางการเขียนโปรแกรมที่ให้เราสามารถดำเนินการหลายอย่างได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องรอให้การทำงานก่อนหน้าเสร็จสิ้นก่อน โดยฟีเจอร์นี้ช่วยในการยกระดับประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้ หากเราต้องทำงานที่ใช้เวลานาน เช่น การเรียก API หรือการอ่านไฟล์ เราสามารถให้โปรแกรมดำเนินการต่อไปโดยไม่ต้องรอให้การทำงานเหล่านั้นเสร็จ
Kotlin มีการสนับสนุน Coroutines ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้การเขียน Async ง่ายดาย และเข้าใจได้ง่ายกว่าการใช้งาน Thread หรือ Callback เนื่องจาก Coroutines จะช่วยให้เราจัดการกับการทำงานแบบ Async ได้อย่างเรียบง่าย โดยไม่ต้องจัดการกับ Thread โดยตรง
เราจะเริ่มต้นด้วยการสร้างฟังก์ชันที่ทำงานแบบ Async ซึ่งเราจะใช้ `CoroutineScope` และ `launch` สำหรับเริ่มต้น Coroutines ใน Kotlin โค้ดตัวอย่างด้านล่างนี้ คือการเรียกใช้ API เพื่อดึงข้อมูลผู้ใช้งาน
บทอธิบายโค้ด
1. `runBlocking { ... }` - เป็นฟังก์ชันที่ทำให้สคริปต์ Kotlin รอให้ Coroutines ภายในมันเสร็จสิ้นก่อนจะกลับมาเรียกใช้งาน ซึ่งในที่นี้จะทำให้เรารอให้ `job` เสร็จสิ้น 2. `launch` - ใช้ในการสร้าง Coroutines ใหม่ โดยที่เราสามารถทำงานแบบไม่บล็อกต่อไป 3. `delay(2000)` - ใช้เพื่อจำลองค่าสาย (Simulate delay) เช่น การเข้าถึง API ทำให้แสดงผลลัพธ์หลังจาก 2 วินาที 4. `join()` - ทำให้โปรแกรมต้องรอจนกว่า Coroutines จะทำงานเสร็จ
1. การเรียก API
ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องเชื่อมต่อกับ API ข้อมูล จะมีการใช้งาน Async อยู่บ่อยครั้ง เช่น แอปพลิเคชันการเดินทางที่ต้องดึงข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว หรือข้อมูลของผู้ใช้ ข้อมูลเหล่านี้ต้องการเวลาในการประมวลผล ดังนั้นการใช้งาน Asynchronous จะช่วยให้แอปพลิเคชันยังคงทำงานได้แม้ยังไม่ได้รับข้อมูลจาก API
2. การโหลดข้อมูลจำนวนมาก
ในกรณีที่เราต้องจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การอ่านไฟล์ขนาดใหญ่หรือการประมวลผลข้อมูลชุดใหญ่ การใช้ Async จะช่วยให้ผู้ใช้ยังคงสามารถทำงานภายในแอปพลิเคชันได้ในขณะที่รอให้การประมวลผลเสร็จสิ้น
3. การเชื่อมต่อฐานข้อมูล
การที่จะต้องรอให้การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเสร็จสิ้นอาจทำให้แอปล่าช้า การใช้ Async จะทำให้แอปพลิเคชันมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้สามารถทำงานต่อไปได้
การเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานแบบ Async เป็นสิ่งสำคัญในยุคที่การพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นที่นิยม เนื่องจากผู้ใช้ต้องการประสบการณ์ที่รวดเร็วและไม่สะดุด การรู้จักและเข้าใจวิธีการจัดการกับ Asynchronous Programming จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพสูง และรองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้
หากคุณสนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม Kotlin และ Async โดยเฉพาะ เราขอเชิญชวนคุณมาเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่นี่เรามีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกความต้องการในการเรียนรู้โปรแกรมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาษา Kotlin, Java, Python หรืออื่นๆ โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนการสนับสนุนจากชุมชนที่แข็งแกร่ง รับรองว่าคุณจะได้เทคนิคและทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ!
เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับ EPT วันนี้ คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM