Muller's Method เป็นวิธีการหาค่าศูนย์ของฟังก์ชันที่นำเสนอโดย *Muller* ในปี 1956 โดยเป็นวิธีเชิงเลเชียน (Quadratic) ที่ใช้การประมาณค่าแบบพหุนามระดับที่สอง แทนที่จะใช้วิธีเชิงเส้น (Linear) ที่มีการประมาณค่าแบบพหุนามระดับหนึ่ง ซึ่ง Muller's Method มีข้อได้เปรียบในการหาค่าศูนย์ที่อาจมีความซับซ้อนมากขึ้น หรือในกรณีที่ฟังก์ชันมีค่าศูนย์ที่อยู่ใกล้กัน
วิธีการทำงาน
Muller's Method จะสร้างพหุนามที่ทำการฟิต (Fit) กับจุด 3 จุด คือ \(x_0\), \(x_1\), และ \(x_2\) ซึ่งเป็นค่าช่วยในการประเมินค่าศูนย์ จากนั้นจะใช้พหุนามนี้ในการคำนวณหาค่าศูนย์ใหม่ \(x_3\) ด้วยสูตรดังนี้:
\[
H = \sqrt{(x_2 - x_1)(f(x_2) - f(x_1)) - (x_2 - x_0)(f(x_2) - f(x_0))}
\]
จากนั้นจะได้:
\[
x_3 = x_2 - \frac{2f(x_2)}{(H \text{ หรือ } x_2 - x_1)}
\]
ตัวอย่างโค้ดใน Kotlin
ขอแนะนำโค้ดตัวอย่างง่าย ๆ ในการใช้ Muller's Method เพื่อหาค่าศูนย์ของฟังก์ชัน \(f(x) = x^3 - 6x^2 + 11x - 6\):
Muller's Method มักใช้ในวิศวกรรมและฟิสิกส์ เพื่อหาค่าศูนย์ของฟังก์ชันเมื่อพยายามคำนวณการตอบสนองของระบบจำลองต่าง ๆ เช่น การคำนวณจุดดึง (Stress Points) ในโครงสร้าง หรือการหาจุดที่มีความดันต่ำสุดในทางอากาศพลศาสตร์ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ ที่มีฟังก์ชันที่มีความซับซ้อน
Complexity ของ Muller's Method มักจะประมาณอยู่ที่ \(O(n^{1})\) ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนการทำงานที่จำเป็นในการหาค่าศูนย์ที่แท้จริง อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีการหาค่าศูนย์ที่ซับซ้อน อาจมีการลงไปถึง \(O(n^{2})\) ได้
ข้อดี:
1. ความแม่นยำสูง: Muller's Method สามารถให้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูงเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ เนื่องจากใช้การประมาณค่าแบบพหุนามที่สูงกว่า 2. หาได้ในฟังก์ชันที่ซับซ้อน: เหมาะสำหรับฟังก์ชันที่มีค่าศูนย์จำนวนมากและใกล้กันข้อเสีย:
1. ความซับซ้อนในการคำนวณ: การคำนวณมีความซับซ้อนมากกว่าวิธีเชิงเส้น 2. อาจหาค่าศูนย์ได้ยาก: ในบางครั้ง อาจเกิดปัญหาในกรณีที่มี discriminant ที่ติดลบซึ่งไม่สามารถหาค่าศูนย์ได้
Muller's Method เป็นวิธีการที่มีความน่าสนใจสำหรับการหาค่าศูนย์ของฟังก์ชัน โดยเฉพาะในปัญหาที่ซับซ้อนในโลกจริง การนำเข้าไปใช้ในโค้ดภาษา Kotlin ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งในการแสดงถึงวิธีการนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถคำนวณค่าศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมเช่นนี้ พร้อมเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณ สามารถเข้ามาเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณได้เลย!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM