การจัดการข้อมูลในยุคปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือการจัดการข้อมูลนักเรียนนักศึกษาสำหรับสถาบันการศึกษา ฐานข้อมูล (Database) จึงกลายเป็นคำที่เราคุ้นเคยอยู่ในชีวิตประจำวัน และหนึ่งในคำสั่งที่สำคัญที่สุดใน SQL สำหรับการเรียกดูข้อมูลจากฐานข้อมูลคือ Select Statement
ก่อนที่เราจะดำดิ่งลงไปใน Select Statement เราต้องเข้าใจก่อนว่าฐานข้อมูลคืออะไร ฐานข้อมูลคือระบบที่จัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบ ช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูล ดึงข้อมูล แก้ไขข้อมูล และลบข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Structured Query Language หรือ SQL เป็นภาษาที่ใช้ในการจัดการและดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล และหนึ่งในคำสั่งที่ถูกใช้งานมากที่สุดก็คือ Select Statement หรือการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลนั่นเอง
Select Statement ใช้สำหรับการดึงข้อมูลจากตารางในฐานข้อมูล โดยสามารถระบุเงื่อนไขและจัดเรียงข้อมูลได้ตามที่ต้องการ ต่อไปนี้คือตัวอย่างโครงสร้างพื้นฐานของ Select Statement:
SELECT column1, column2, ...
FROM table_name
WHERE condition;
คำสั่งนี้เริ่มโดยการระบุคอลัมน์ที่ต้องการดึงข้อมูล จากนั้นระบุตารางที่เก็บข้อมูลที่ต้องการนั้นออกมา และสามารถให้เงื่อนไขได้ว่าต้องการดึงแถวไหนออกมา
สมมุติว่าเรามีตารางในฐานข้อมูลชื่อ `Students` ที่มีคอลัมน์ประกอบด้วย `StudentID`, `FirstName`, `LastName`, `Age`, และ `Major` เราต้องการดึงรายชื่อและวิชาที่นักเรียนลงทะเบียนที่อายุมากกว่า 18 ปีสามารถเขียนคำสั่งได้ดังนี้:
SELECT FirstName, LastName, Major
FROM Students
WHERE Age > 18;
คำสั่งนี้จะคืนค่าข้อมูลของนักเรียนทั้งหมดที่อายุมากกว่า 18 ปี โดยมีเฉพาะชื่อ นามสกุล และวิชาเอก
นอกจากการกำหนดเงื่อนไขแล้ว เราสามารถจัดเรียงข้อมูลที่ดึงออกมาได้ตามต้องการ โดยใช้คำสั่ง `ORDER BY` ต่อท้าย เช่น:
SELECT FirstName, LastName, Major
FROM Students
WHERE Age > 18
ORDER BY LastName;
คำสั่งด้านบนจะเรียงข้อมูลตามลำดับอักษรของนามสกุล
บางครั้งการตั้งชื่อคอลัมน์อาจจะทำให้เกิดความซับซ้อน Alias หรือชื่อเล่นสามารถช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เช่น:
SELECT FirstName AS FName, LastName AS LName, Major
FROM Students
WHERE Age > 18;
ในคำสั่งนี้ `AS` ใช้สำหรับการตั้งชื่อเล่นให้คอลัมน์ที่ดึงออกมา ทำให้ง่ายขึ้นในการอ้างอิงภายในโปรแกรมหรือรายงาน
ในกรณีที่เราต้องการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ เช่น หาจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่อายุมากกว่า 18 ปีก็สามารถใช้ Aggregate Functions ได้ เช่น `COUNT`:
SELECT COUNT(StudentID) AS NumberOfStudents
FROM Students
WHERE Age > 18;
คำสั่งนี้จะคืนค่าจำนวนนักเรียนที่ตรงตามเงื่อนไขอายุที่กำหนด
การ JOIN เป็นการดึงข้อมูลจากหลายๆ ตารางมารวมกัน โดยใช้คอลัมน์ที่เกี่ยวข้องกัน และ SELECT Statement สามารถใช้งานร่วมกับ JOIN ได้เป็นอย่างดี เช่น:
SELECT Students.FirstName, Students.LastName, Courses.CourseName
FROM Students
JOIN Enrollments ON Students.StudentID = Enrollments.StudentID
JOIN Courses ON Enrollments.CourseID = Courses.CourseID;
ในคำสั่งด้านบน เราดึงข้อมูลชื่อนักเรียนและชื่อคอร์สที่พวกเขาลงทะเบียน โดยการเชื่อมตาราง `Students`, `Enrollments`, และ `Courses`
Select Statement เป็นพื้นฐานของการดึงข้อมูลใน SQL ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูลขั้นพื้นฐาน การใช้เงื่อนไข จัดเรียงข้อมูล รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยฟังก์ชันทางสถิติและการรวมข้อมูลจากหลายตาราง
การเรียนรู้และเข้าใจการใช้ Select Statement อย่างถี่ถ้วนจะช่วยให้เราสามารถจัดการข้อมูลในฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นหนึ่งในปราการแรกของการเข้าสู่โลกของการพัฒนาฐานข้อมูลที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
หากคุณสนใจต่อยอดความรู้ด้านฐานข้อมูล SQL และการเขียนโปรแกรม เพื่อเพิ่มโอกาสในสายอาชีพในยุคดิจิทัล การศึกษาเพิ่มเติมอาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคุณ ที่ EPT เรามีหลักสูตรที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูลและโปรแกรมมิ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะของคุณให้ก้าวหน้าและเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM