ในยุคดิจิทัลที่การเขียนโปรแกรมกลายเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในหลายวงการ การดูแลโค้ดของคุณให้เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพนั้นมีความจำเป็นมากกว่าเดิม หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้โค้ดของคุณเป็นระเบียบและสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ง่ายคือการทำ "Refactoring" หรือการปรับปรุงโค้ดที่มีอยู่ให้ดีขึ้น
Refactoring คือกระบวนการของการจัดโครงสร้างหรือการปรับปรุงโค้ดโดยไม่กระทบต่อฟังก์ชั่นหรือการทำงานของโปรแกรม โค้ดที่ได้รับการ Refactor นั้นจะง่ายต่อการอ่าน เข้าใจ และบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดในอนาคตอีกด้วย
ความสำคัญของการ Refactoring อยู่ที่ความสามารถในการทำให้โค้ดดูสะอาดและลดความซับซ้อน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1. เพิ่มความอ่านง่าย (Readability): โค้ดที่ได้รับการจัดระเบียบและมี Comment ที่ดีทำให้นักพัฒนาทุกคนสามารถเข้าใจการทำงานของระบบได้รวดเร็วขึ้น 2. ลดการเกิดข้อผิดพลาด (Error Reduction): การจัดการโค้ดให้เป็นระเบียบจะช่วยลดโอกาสในการสร้างบั๊กในอนาคต 3. เพิ่มความยืดหยุ่น (Flexibility): เมื่อมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ โค้ดที่ได้รับการ Refactor จะสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น
มีหลายวิธีที่คุณสามารถเริ่มทำ Refactoring ได้ แต่ละวิธีก็จะเหมาะกับโค้ดในแต่ละแบบ เราจะนำเสนอหลายวิธีที่ใช้บ่อย ๆ:
1. Rename_variable: การตั้งชื่อที่ชัดเจนจะช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจได้ง่ายว่าตัวแปรนั้น ๆ ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร ตัวอย่าง:
# Before Refactoring
def calculate(x, y):
a = x * y
return a
# After Refactoring
def calculate_area(width, height):
area = width * height
return area
2. Extract Method: การแยกโค้ดที่มีลักษณะทำงานคล้ายกันให้อยู่ในฟังก์ชันเดียวกัน ช่วยลดการเขียนโค้ดซ้ำซ้อน
# Before Refactoring
def print_user_info(user):
print('User Name: ', user.name)
print('User Age: ', user.age)
# After Refactoring
def print_user_name(user):
print('User Name: ', user.name)
def print_user_age(user):
print('User Age: ', user.age)
def print_user_info(user):
print_user_name(user)
print_user_age(user)
3. Inline Temp: เป็นการลดการสร้างตัวแปรที่ไม่จำเป็นเพื่อทำให้โค้ดสั้นลง
# Before Refactoring
def calculate_discount(price):
discount = price * 0.1
return discount
# After Refactoring
def calculate_discount(price):
return price * 0.1
มีเครื่องมือและ IDE หลายตัวที่มีฟีเจอร์ช่วยในการ Refactoring เช่น Visual Studio Code, PyCharm, Eclipse เป็นต้น การใช้เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยประหยัดเวลาและทำให้การปรับปรุงโค้ดง่ายขึ้น
สมมุติว่าคุณกำลังพัฒนาแอปพลิเคชันจัดการสินค้าคงคลัง และคุณได้รับโค้ดเก่าที่เขียนไว้เมื่อหลายปีมาแล้ว โค้ดนี้อาจทำงานได้ดี แต่สร้างความปวดหัวเมื่อคุณต้องการเพิ่มฟังก์ชันใหม่หรือปรับปรุงฟีเจอร์เดิม
การทำ Refactoring จะช่วยให้คุณจัดกลุ่มฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการคำนวณและจัดรูปแบบข้อมูลสินค้า หรือฟังก์ชันในการจัดการสต็อก ซึ่งทำให้ระบบของคุณมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการบำรุงรักษามากยิ่งขึ้น
การทำ Refactoring เป็นทักษะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนควรมี ไม่เพียงแต่ช่วยให้โค้ดของคุณมีคุณภาพดีขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณและทีมสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมุ่งสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้น
ถ้าคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมและเรียนรู้เทคนิคลึกซึ้งเกี่ยวกับการ Refactoring มาที่นี้, โปรแกรมแนะนำจาก EPT (Expert-Programming-Tutor) อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ ให้คุณสามารถเรียนรู้ได้ทั้งจากประสบการณ์จริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM