ในยุคปัจจุบัน การเขียนโปรแกรมแบบ Object Oriented Programming (OOP) ได้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นที่นิยมอย่างมากในหลากหลายภาษาโปรแกรม รวมถึง Objective-C ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ iOS และ macOS ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ OOP ใน Objective-C แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง CODE และอธิบายการทำงาน รวมถึงยกตัวอย่าง usecase ในโลกจริงด้วย
Object Oriented Programming (OOP) คือแนวคิดในการเขียนโปรแกรมที่ใช้ "วัตถุ" (Object) รวมทั้ง "คลาส" (Class) เป็นฐานของการจัดระเบียบโค้ด โดย OOP จะช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมเป็นไปอย่างมีระเบียบ และสามารถจัดการกับความซับซ้อนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ OOP ยังช่วยในการสร้างโค้ดที่นำกลับมาใช้งานได้ซ้ำ (Reusable Code) ลดการทำซ้ำของโค้ด และง่ายต่อการดูแลรักษา (Maintainability)
ในภาษา Objective-C จะมีแนวคิดหลักเกี่ยวกับ OOP ดังนี้:
1. Class - เป็นแบบแผนสำหรับสร้างวัตถุ (Object) โดยตัวคลาสจะประกอบด้วย attribute (การเก็บข้อมูล) และ methods (ฟังก์ชันการทำงาน) 2. Object - เป็นตัวอย่างของ Class ซึ่งเป็นหน่วยที่เราสามารถสื่อสารและใช้งานได้ 3. Inheritance - เป็นการสร้างคลาสใหม่ที่สืบทอดคุณสมบัติจากคลาสเดิม ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างฟังก์ชันใหม่จากฟังก์ชันเก่าได้ 4. Polymorphism - เป็นความสามารถในการเรียกใช้ฟังก์ชันที่มีชื่อเดียวกัน แต่ทำงานต่างกันไปตามประเภทของ Object 5. Encapsulation - เป็นการซ่อนรายละเอียดการทำงานของวัตถุ โดยเปิดเผยเพียงส่วนที่จำเป็นให้กับผู้ใช้งาน
เรามาเริ่มสร้าง Class และ Object ใน Objective-C กัน:
การทำงานของโค้ด
1. เราเริ่มต้นด้วยการนำเข้า Foundation framework ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานใน Objective-C
2. สร้าง `Car` class พร้อมกับ properties `brand`, `model`, และ `year` เพื่อเก็บข้อมูลของรถ
3. มี method `displayInfo` ที่ใช้ในการแสดงรายละเอียดของรถ
4. ใน `main` function เราสร้างวัตถุ `myCar` จาก `Car` class และกำหนดค่าคุณสมบัติต่างๆ
5. เราเรียกใช้ method `displayInfo` เพื่อแสดงข้อมูลของรถที่เราสร้างขึ้น
หนึ่งใน use case ที่ชัดเจนในการใช้ OOP คือการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งความซับซ้อนของข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็น class ต่างๆ เช่น `Student`, `Teacher`, `Course`, และ `Classroom`.
ในสถานการณ์นี้:
- Student class อาจมีคุณสมบัติอย่าง `name`, `studentID`, และ `enrollCourse` - Teacher class อาจมีคุณสมบัติอย่าง `name`, `subject`, และ `teachingHours` - Course class อาจมีคุณสมบัติอย่าง `courseName` และ `credits`การใช้ OOP ในกรณีนี้ช่วยในการจัดระเบียบข้อมูลของนักเรียน คณาจารย์ และวิชาเรียนได้อย่างชัดเจนโดยไม่ทำให้โค้ดซับซ้อนมากขึ้น
OOP ใน Objective-C เป็นแนวทางที่ช่วยให้การเขียนโปรแกรมมีระเบียบและง่ายต่อการดูแลรักษา ด้วยการเข้าใจหลักการพื้นฐานของ OOP เราสามารถสร้างโค้ดที่มีคุณภาพและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพได้ หากคุณสนใจในการเขียนโปรแกรมและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชันและ OOP ที่ดียิ่งขึ้น เราขอเชิญคุณมาศึกษาที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) สถาบันการเรียนรู้ด้านการเขียนโปรแกรมที่จะทำให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในเวลาไม่นาน
ตั้งใจเรียนรู้และลงมือทำ คุณจะเห็นว่าการเขียนโปรแกรมสามารถเป็นสิ่งที่สนุกและท้าทาย พร้อมที่จะก้าวสู่การพัฒนาโลกดิจิทัลในอนาคต!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM