การใช้งาน Loop และ If-Else Inside Loop ในภาษา Objective-C

เมื่อเราพูดถึงการเขียนโปรแกรม แน่นอนว่าความสามารถในการควบคุมการทำงานของโปรแกรมคือสิ่งที่สำคัญมาก หนึ่งในเครื่องมือหลักที่ใช้ในการควบคุมการทำงานนี้คือ `loop` และ `if-else` ตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถทำซ้ำๆ และเงื่อนไขในการทำงาน เพื่อให้โปรแกรมทำงานตามที่เราต้องการ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงการใช้งาน `loop` และ `if-else` ภายใน `loop` ในภาษา Objective-C ตัวอย่างเช่นโค้ดง่ายๆ พร้อมการอธิบายการทำงาน และยกตัวอย่าง use case ในชีวิตจริง

Loop ใน Objective-C

Loop คือกลไกที่ช่วยให้เราสามารถทำซ้ำการทำงานได้ตามจำนวนครั้งที่กำหนดหรือจนกว่าเงื่อนไขหนึ่งจะเป็นจริง ใน Objective-C เราสามารถใช้ loop หลักๆ ได้ 3 ประเภท ได้แก่:

ตัวอย่างการใช้งาน `for loop`

 #import <Foundation/Foundation.h>

int main(int argc, const char * argv[]) {
    @autoreleasepool {
        for (int i = 0; i < 5; i++) {
            NSLog(@"Iteration number: %d", i);
        }
    }
    return 0;
}

ในโค้ดนี้ เราใช้ `for loop` ทำการพิมพ์ข้อความ "Iteration number" ตามจำนวนที่กำหนด (ตั้งแต่ 0 ถึง 4)

If-Else ใน Objective-C

คำสั่ง `if-else` คือคำสั่งที่ช่วยในการตัดสินใจในโปรแกรม โดยเราสามารถตั้งเงื่อนไขที่เราต้องการตรวจสอบ หากเงื่อนไขเป็นจริง จะทำบล็อกแรก ถ้าไม่จะทำบล็อกที่สอง

ตัวอย่างการใช้งาน `if-else`

 int number = 10;

if (number > 5) {
    NSLog(@"Number is greater than 5");
} else {
    NSLog(@"Number is 5 or less");
}

ในโค้ดนี้ เราตรวจสอบค่าของตัวแปร `number` หากมากกว่า 5 จะพิมพ์ข้อความว่า "Number is greater than 5" แต่ถ้าไม่ใช่ จะพิมพ์ข้อความว่า "Number is 5 or less"

การใช้ Loop และ If-Else ภายใน Loop

แน่นอนว่าเราสามารถสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมภายในหุ้นส่วนของ loop ได้ด้วย นี่คือที่มาของการใช้งาน `if-else` ภายใน `for loop`

 #import <Foundation/Foundation.h>

int main(int argc, const char * argv[]) {
    @autoreleasepool {
        for (int i = 0; i < 10; i++) {
            if (i % 2 == 0) {
                NSLog(@"%d is even", i);
            } else {
                NSLog(@"%d is odd", i);
            }
        }
    }
    return 0;
}

ในโค้ดนี้ เราทำการตรวจสอบว่าเลข `i` ในแต่ละรอบของ `for loop` นั้นเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ โดยการใช้การหารเศษ (modulus) ถ้าเศษที่ได้จากการหาร 2 เท่ากับ 0 เราก็จะพิมพ์ว่า “is even” ถ้าค่าไม่ใช่เลขคู่ก็จะพิมพ์ว่า “is odd”

Use Case ในชีวิตจริง

ตัวอย่างโค้ด

 #import <Foundation/Foundation.h>

int main(int argc, const char * argv[]) {
    @autoreleasepool {
        NSArray *existingEmails = @[@"example1@gmail.com", @"example2@gmail.com", @"example3@gmail.com"];
        NSString *newEmail = @"example2@gmail.com";
        BOOL isUnique = YES;

        for (NSString *email in existingEmails) {
            if ([email isEqualToString:newEmail]) {
                isUnique = NO;
                break; // ถ้าพบว่าอีเมลซ้ำ จะหยุดการตรวจสอบ
            }
        }

        if (isUnique) {
            NSLog(@"Email is unique. Proceed with registration.");
        } else {
            NSLog(@"Email already exists. Please try another.");
        }
    }
    return 0;
}

ในตัวอย่างดังกล่าว เรารวมการตรวจสอบอีเมลที่มีอยู่แล้วจากอาร์เรย์ `existingEmails` โดยใช้ loop และ if-else เพื่อดูว่าอีเมลที่ผู้ใช้กรอกมามีอยู่แล้วหรือไม่ เพื่อให้สามารถแสดงผลลัพธ์ที่เหมาะสมได้

สรุป

การใช้ `loop` และ `if-else` ในการเขียนโปรแกรมถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการทำซ้ำหรือการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยการนำทักษะเหล่านี้มาใช้ ทำให้การเขียนโปรแกรมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ถ้าคุณต้องการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมอย่างละเอียดมากขึ้น ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีคอร์สการสอนที่ครอบคลุมทักษะพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง คุณจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และสามารถนำความรู้ไปใช้จริงในทุกด้านของการพัฒนาโปรแกรม ถ้าคุณพร้อมแล้วมาเริ่มต้นกันเถอะ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง