ความเข้าใจระหว่าง `return` กับ `yield` ในภาษา Swift

การเขียนโปรแกรมในภาษา Swift นั้นเต็มไปด้วยความน่าสนใจ และเครื่องมือที่เป็นประโยชน์มากมาย วันนี้เราจะมาพูดถึงสองคำที่มีบทบาทสำคัญในการเขียนฟังก์ชัน: `return` และ `yield` โดยเฉพาะการใช้งานในภาษา Swift ซึ่งอาจจะเกิดความสับสนให้กับผู้เริ่มต้นใช้งาน ผู้เขียนจะอธิบายถึงการทำงานของคำเหล่านี้ พร้อมกับตัวอย่างโค้ด และยกตัวอย่าง use case ในชีวิตจริงให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

เข้าใจ `return`

`return` เป็นคำที่ใช้ในการส่งค่ากลับจากฟังก์ชัน ในเมื่อฟังก์ชันทำงานเสร็จสิ้น ค่าที่ระบุต้องถูกส่งกลับให้กับเรียกฟังก์ชัน ตัวอย่างการใช้งานที่ง่ายเริ่มจากนี่เลย

 func addNumbers(a: Int, b: Int) -> Int {
    return a + b
}

let result = addNumbers(a: 5, b: 3)
print("ผลลัพธ์คือ \(result)")

ในโค้ดด้านบน เราได้สร้างฟังก์ชันที่ชื่อว่า `addNumbers` ซึ่งรับค่าถึง 2 ตัวคือ `a` และ `b` ซึ่งเป็นประเภท Int และส่งค่ากลับเป็นผลรวมของตัวเลขทั้งสอง โดยใช้คำสั่ง `return` ในการส่งค่าผลลัพธ์กลับไป

เข้าใจ `yield`

ใน Swift คำว่า `yield` ไม่ได้เป็นองค์ประกอบหลักเหมือนคำว่า `return` หากแต่ Swift ได้นำแนวคิดจากการเขียนโปรแกรมแบบ generator มาใช้ การสร้าง generator ใน Swift เราใช้ `yield` เพื่อส่งค่าคืนไปให้กับผู้เรียกฟังก์ชันในขณะที่ฟังก์ชันยังมีการทำงานอยู่ และฟังก์ชันนั้นสามารถหยุดทำงานและกลับมาเริ่มใหม่ได้เมื่อมีการเรียกใช้งานอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ใน Swift 5.0 เป็นต้นมา มีการเพิ่มเติม `AsyncSequence` ที่ทำให้สามารถทำงานกับชุดข้อมูลที่เป็น asynchronous อย่างชัดเจนมากขึ้น

ตัวอย่างการใช้งาน generator อาจเป็นประมาณนี้:

 func generateNumbers() -> AnyIterator<Int> {
    var number = 1
    return AnyIterator {
        let currentNumber = number
        number += 1
        return currentNumber
    }
}

let numbers = generateNumbers()
for _ in 1...5 {
    print(numbers.next()!)
}

ในตัวอย่างนี้ เราใช้ `AnyIterator` เพื่อสร้าง generator ที่ส่งค่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้ `yield` ในการส่งค่าผลลัพธ์กลับไป ให้เห็นว่าเราสามารถเรียกใช้งาน generator นั้นได้หลายครั้ง

การที่ `return` กับ `yield` ทำงานแตกต่างกัน

Use cases ในโลกจริง

 func fetchUserData() async -> [User] {
    // ฟังก์ชันนี้จะสามารถส่งกลับข้อมูลผู้ใช้ได้ตามที่มี
    // พร้อมกันนั้นยังสามารถเพิ่มข้อมูลเข้ามาทีละ 1 ได้อีกด้วย
    var users: [User] = []
    for url in userUrls {
        let user = await fetchUser(url)
        users.append(user)
    }
    return users
}

ตัวอย่างนี้แสดงถึงการดึงข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอนจาก API ข้อมูลผู้ใช้ โดยสามารถส่งค่าผลลัพธ์กลับมาได้เมื่อทำงานเสร็จสิ้น ซึ่งไม่ทำให้โปรแกรมเสียเวลาไปมากในขณะที่กำลังรอข้อมูล

สรุป

การเลือกใช้ `return` หรือ `yield` ขึ้นอยู่กับบริบทของโปรแกรมว่าเราต้องการส่งค่ากลับไปในลักษณะใด หากมันคือการส่งค่าผลลัพธ์ของการคำนวณ เราก็ควรใช้ `return` แต่ถ้าต้องการประมวลผลข้อมูลที่มากขึ้นและทำงานอย่างต่อเนื่อง ให้เราเลือกใช้ `yield` แทน

หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษา Swift และการเขียนโปรแกรมแบบลึกซึ้งมากขึ้น อย่าลืมเข้าร่วมเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่นี่เรามีหลักสูตรที่เหมาะสมกับทุกระดับ อย่าพลาดโอกาสในการพัฒนาทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์ของคุณไปพร้อมกันกับผู้เชี่ยวชาญ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง