Swift

การใช้งาน Nested If-Else ในภาษา Swift แบบง่าย ๆ

เกริ่นนำ

ในโลกแห่งการเขียนโปรแกรม ภาษาที่เราเลือกใช้มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าความเข้าใจในตรรกะและโครงสร้างของโค้ด เราจะมาพูดถึงความมหัศจรรย์ของ **nested if-else** ในภาษา **Swift** ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในการพัฒนาแอปพลิเคชัน iOS

Nested If-Else คืออะไร?

Nested if-else

คือการใช้คำสั่ง if-else ภายใน if-else อื่น ซึ่งช่วยให้เราสามารถตรวจสอบเงื่อนไขหลาย ๆ เงื่อนไขได้ในโครงสร้างเดียวกัน ทำให้การเขียนโปรแกรมมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โครงสร้างของ Nested If-Else

 if เงื่อนไข1 {
    // โค้ดเมื่อเงื่อนไข1 เป็นจริง
    if เงื่อนไข2 {
        // โค้ดเมื่อเงื่อนไข1 และเงื่อนไข2 เป็นจริง
    } else {
        // โค้ดเมื่อเงื่อนไข1 เป็นจริงและเงื่อนไข2 เป็นเท็จ
    }
} else {
    // โค้ดเมื่อเงื่อนไข1 เป็นเท็จ
}

ตัวอย่างการใช้งาน Nested If-Else

ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ ที่สามารถแสดงการใช้งาน nested if-else ในภาษา Swift กันดีกว่า

ตัวอย่าง Scenario

สมมติว่าเราต้องการสร้างโปรแกรมตรวจสอบระดับคะแนนของนักเรียน ซึ่งคะแนนอยู่ในช่วง 0-100 และแบ่งเป็นระดับ A, B, C, D, F

 import Foundation

func checkGrade(score: Int) -> String {
    var result: String

    if score >= 0 && score <= 100 {
        if score >= 90 {
            result = "A"
        } else if score >= 80 {
            result = "B"
        } else if score >= 70 {
            result = "C"
        } else if score >= 60 {
            result = "D"
        } else {
            result = "F"
        }
    } else {
        result = "คะแนนไม่ถูกต้อง"
    }

    return result
}

// ตัวอย่างการทดสอบฟังก์ชัน
let score1 = 85
print("คะแนนของนักเรียนคือ: \(score1) ได้ระดับ: \(checkGrade(score: score1))")

let score2 = 45
print("คะแนนของนักเรียนคือ: \(score2) ได้ระดับ: \(checkGrade(score: score2))")

let score3 = 150
print("คะแนนของนักเรียนคือ: \(score3) ได้ระดับ: \(checkGrade(score: score3))")

อธิบายการทำงาน

1. การใช้งานฟังก์ชัน - ฟังก์ชัน `checkGrade` จะรับคะแนนของนักเรียนและตรวจสอบคะแนนนั้น 2. เงื่อนไขแรก - เราตรวจสอบก่อนว่าคะแนนอยู่ในช่วงที่ถูกต้อง (0 – 100) 3. การใช้งาน Nested If-Else - หากคะแนนถูกต้อง เราจะใช้ if-else เพื่อตรวจสอบคะแนนในแต่ละช่วง และให้ผลลัพธ์เป็นระดับ A, B, C, D หรือ F ตามคะแนนที่ได้ 4. การจัดการคะแนนที่ไม่ถูกต้อง - หากคะแนนไม่อยู่ในช่วงที่กำหนด เราก็จะคืนค่าข้อความว่าคะแนนไม่ถูกต้อง

ผลลัพธ์

ผลลัพธ์ที่ได้จากการรันโปรแกรมจะมีลักษณะดังนี้:

 คะแนนของนักเรียนคือ: 85 ได้ระดับ: B
คะแนนของนักเรียนคือ: 45 ได้ระดับ: F
คะแนนของนักเรียนคือ: 150 ได้ระดับ: คะแนนไม่ถูกต้อง

Use Case ในโลกจริง

การใช้ nested if-else ยังพบได้บ่อยในแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการให้คะแนน การอนุมัติใบสมัคร หรือการคัดกรองข้อมูล เช่น:

- ระบบการประเมินผลการเรียน - ผู้สอนสามารถใช้ nested if-else เพื่อตัดสินว่าผู้เรียนควรได้รับเครดิต หรือควรต้องทำคะแนนเพิ่ม - เว็บไซต์สมัครงาน - ผู้ใช้สามารถใช้เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อคืนค่าตำแหน่งหรือการอนุมัติสำหรับผู้สมัคร - เกม - ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขการตอบคำถามที่อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน

สรุป

การใช้งาน nested if-else ใน Swift เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับเงื่อนไขที่ซับซ้อนในการเขียนโปรแกรม ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีระบบ มีการตรวจสอบเงื่อนไขได้อยากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในหลักการของการเขียนโปรแกรมเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมพัฒนาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมต่อไป!

หากคุณสนใจในศิลปะการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม และต้องการพัฒนาทักษะของคุณให้มากขึ้น แนะนำให้มาเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับการเรียนรู้ที่ท้าทาย และได้พัฒนาโค้ดในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นภาษา Swift หรือภาษาการเขียนโปรแกรมอื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักพัฒนาอย่างมืออาชีพ!

เรียนรู้ เพื่อเติบโต

การเรียนรู้เขียนโปรแกรมไม่ใช่แค่การเข้าใจตรรกะและโค้ด แต่อยู่ที่การนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในโลกจริง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีต่อไปในอนาคต!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android

บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

EXPERT-PROGRAMMING-TUTOR
รับสอนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

Swift

การใช้งาน Nested If-Else ในภาษา Swift แบบง่าย ๆ

เกริ่นนำ

โครงสร้างของ Nested If-Else

ตัวอย่างการใช้งาน Nested If-Else

Use Case ในโลกจริง

สรุป

เรียนรู้ เพื่อเติบโต

บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

ติดต่อเราได้ที่

EXPERT-PROGRAMMING-TUTOR รับสอนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

Swift

การใช้งาน Nested If-Else ในภาษา Swift แบบง่าย ๆ

เกริ่นนำ

โครงสร้างของ Nested If-Else

ตัวอย่างการใช้งาน Nested If-Else

Use Case ในโลกจริง

สรุป

เรียนรู้ เพื่อเติบโต

บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

ติดต่อเราได้ที่

EXPERT-PROGRAMMING-TUTOR
รับสอนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์