การเขียน Code NoSQL CRUD โดยใช้ภาษา JavaScript

ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อทุกการตัดสินใจ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเลือกฐานข้อมูลที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้โปรเจ็คของเราประสบความสำเร็จ หรือไม่ก็ล้มเหลว ในบรรดาฐานข้อมูลที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ต้องไม่พลาดพูดถึง NoSQL ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่รองรับข้อมูลในรูปแบบที่ยืดหยุ่น และไม่จำเป็นต้องใช้ Schema ที่ตายตัว

NoSQL คืออะไร?

NoSQL (Not Only SQL) เป็นประเภทของฐานข้อมูลที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ โดยค่าเริ่มต้นมันจะไม่มีความเข้มงวดในด้าน Schema ซึ่งหมายความว่าสามารถจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่ไม่เป็นระเบียบได้ นอกจากนี้ NoSQL ยังคงมีความสามารถในการใช้งานร่วมกับ SQL ได้อย่างไร้รอยต่อ จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือความสามารถในการขยายตัว หรือ Scale-out แทนที่จะ Scale-up แบบฐานข้อมูล SQL

CRUD Operations

CRUD ย่อมาจาก Create, Read, Update, Delete ซึ่งเป็นการดำเนินการพื้นฐานของฐานข้อมูล การใช้ CRUD ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลใน NoSQL รวมถึงความแตกต่างจากฐานข้อมูล SQL แบบเดิม

ตัวอย่างการใช้ MongoDB

ในบทความนี้เราจะใช้ MongoDB ซึ่งเป็นหนึ่งใน NoSQL ที่ได้รับความนิยม คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง MongoDB ได้ที่ [MongoDB Download](https://www.mongodb.com/try/download/community) หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบว่า MongoDB Service กำลังทำงานอยู่

เราจะใช้ JavaScript ร่วมกับ Mongoose ซึ่งเป็น ODM (Object Data Modeling) สำหรับ MongoDB การติดตั้ง Mongoose สามารถทำได้ด้วยคำสั่งต่อไปนี้:

 npm install mongoose

ตัวอย่างโปรเจ็ค CRUD

เรามาดูตัวอย่างกันว่าการสร้าง, อ่าน, ปรับปรุง และ ลบข้อมูลใน MongoDB ด้วย JavaScript มีวิธีการอย่างไร

 // เชื่อมต่อกับ MongoDB
const mongoose = require('mongoose');
mongoose.connect('mongodb://localhost:27017/mydatabase', { useNewUrlParser: true, useUnifiedTopology: true });

// สร้าง Schema สำหรับข้อมูล
const userSchema = new mongoose.Schema({
  name: String,
  email: String,
});

// สร้าง Model จาก Schema
const User = mongoose.model('User', userSchema);

// 1. Create – สร้างข้อมูลใหม่
const createUser = async (name, email) => {
  const user = new User({ name, email });
  await user.save();
  console.log('User Created:', user);
};

// 2. Read – อ่านข้อมูล
const readUsers = async () => {
  const users = await User.find();
  console.log('All Users:', users);
};

// 3. Update – ปรับปรุงข้อมูล
const updateUser = async (id, newName) => {
  const user = await User.findByIdAndUpdate(id, { name: newName }, { new: true });
  console.log('User Updated:', user);
};

// 4. Delete – ลบข้อมูล
const deleteUser = async (id) => {
  await User.findByIdAndDelete(id);
  console.log('User Deleted');
};

// การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ
const runCRUDExample = async () => {
  await createUser('John Doe', 'john@example.com');
  await readUsers();
  // สมมุติว่าเราได้ id ของผู้ใช้
  const userId = 'someUserId';
  await updateUser(userId, 'Jane Doe');
  await deleteUser(userId);
};

runCRUDExample().catch(err => console.error(err));

คำอธิบายโค้ด

ในโค้ดด้านบน เมื่อเริ่มต้นให้เราเชื่อมต่อกับ MongoDB ผ่าน Mongoose จากนั้นเราจะกำหนด Schema ของผู้ใช้ ซึ่งในที่นี้ประกอบไปด้วย `name` และ `email` ที่เป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดเก็บเนื้อหา

ประโยชน์ของ NoSQL และการศึกษาโปรแกรมมิ่ง

NoSQL คือเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันที่มีความสามารถในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้ง่าย รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่น ในยุคที่ข้อมูลเป็นสิ่งหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีย่อมทำให้หลายๆ องค์กรจำเป็นต้องหาโซลูชันที่เหมาะสมในการจัดการข้อมูล การเรียนรู้ NoSQL จึงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่ควรเรียนรู้ในยุคนี้

หากคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะด้านการเขียนโปรแกรม และสนุกสนานกับการค้นคว้าความรู้ใหม่ๆ บริษัท EPT (Expert-Programming-Tutor) ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาของคุณ เพื่อให้คุณเติบโตเป็นนักพัฒนาที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ

สรุป

ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้พื้นฐานของ NoSQL และ CRUD operations ผ่านตัวอย่างการใช้งาน MongoDB กับ JavaScript ซึ่งจะทำให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นในการใช้งาน NoSQL นอกจากนี้ การศึกษาเรื่องเหล่านี้ยังสามารถช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการเติบโตในสายงานเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

หากคุณต้องการความรู้เพิ่มเติม หรือมีคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมมิ่งต่างๆ สามารถเข้าร่วมเรียนกับ EPT เพื่อเสริมสร้างทักษะของคุณได้อย่างเต็มที่นะคะ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง