การพัฒนาแอปพลิเคชันในยุคปัจจุบันนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องใช้ฐานข้อมูลแบบ SQL เท่านั้น แต่การใช้ NoSQL ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการจัดการข้อมูล โดยเฉพาะสำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่คงที่ หรือมีปริมาณข้อมูลมากมาย ที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วย SQL ทั่วไป ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงพื้นฐานการเขียน Code NoSQL CRUD โดยใช้ภาษา Python ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษายอดนิยมที่นักพัฒนาหลายคนเลือกใช้
NoSQL ย่อมาจาก "Not Only SQL" ซึ่งหมายถึงฐานข้อมูลที่ไม่ใช้ภาษา SQL สำหรับการเข้าถึงข้อมูล โดยมีหลายประเภท เช่น Document Store, Key-Value Store, Column-Family Store และ Graph Database นี่คือข้อดีของ NoSQL ที่ทำให้มันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ:
- ความยืดหยุ่น: ไม่ต้องมี schema ที่เข้มงวด - ขนาดใหญ่: รองรับการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีกว่า - ความเร็ว: มีประสิทธิภาพในการดึงข้อมูลที่รวดเร็ว - กระจายการจัดเก็บ: สามารถกระจายข้อมูลในหลายเซิร์ฟเวอร์ได้
MongoDB เป็นหนึ่งในฐานข้อมูล NoSQL ที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลแบบ document-oriented ซึ่งสะดวกในการจัดการข้อมูลที่มีโครงสร้างหลากหลาย ในการสร้างแอปพลิเคชัน เราจะใช้ MongoDB เป็นตัวอย่างในบทความนี้
ก่อนที่เราจะเริ่มเขียนโค้ด เราต้องติดตั้ง **MongoDB** และ **PyMongo** ซึ่งเป็นไลบรารีในภาษา Python ที่ช่วยให้เราติดต่อกับ MongoDB โดยตัวอย่างขั้นตอนการติดตั้งง่ายๆ มีดังนี้:
1. ติดตั้ง MongoDB: สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดได้ที่ [เว็บไซต์ MongoDB](https://www.mongodb.com/try/download/community) 2. ติดตั้ง PyMongo: สามารถติดตั้งผ่าน pip โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ใน Command Prompt หรือ Terminal```bash
pip install pymongo
```
CRUD คือการกระทำพื้นฐานที่เราสามารถทำกับข้อมูล ได้แก่ Create, Read, Update, และ Delete ในที่นี้ เราจะเขียนตัวอย่างโค้ดสำหรับแต่ละ Operation ในภาษา Python โดยใช้ MongoDB
1. สร้างฐานข้อมูลและ Collection
ใน MongoDB เราสามารถสร้างฐานข้อมูลและ collection ได้เมื่อเริ่มต้นใช้งาน โดยไม่มีคำสั่งสร้างฐานข้อมูลเช่นใน SQL โปรดดูตัวอย่าง:
2. Create (การเพิ่มข้อมูล)
การเพิ่มข้อมูลใน MongoDB เราสามารถใช้ `insert_one()` หรือ `insert_many()` ดังนี้:
3. Read (การอ่านข้อมูล)
การอ่านข้อมูลสามารถทำได้ด้วย `find_one()` สำหรับดึงข้อมูลเดียว และ `find()` สำหรับดึงข้อมูลหลายรายการ:
ถ้าต้องการดึงข้อมูลนักศึกษาทั้งหมดใน collection
4. Update (การอัปเดตข้อมูล)
การอัปเดตข้อมูลใน MongoDB สามารถใช้ `update_one()` หรือ `update_many()` ดังนี้:
5. Delete (การลบข้อมูล)
การลบข้อมูลใน MongoDB สามารถใช้ `delete_one()` หรือ `delete_many()`:
ลองมาดู Use Case ที่เป็นไปได้สำหรับการเขียนโปรแกรม CRUD โดยใช้ NoSQL กัน ตัวอย่างเช่น สถานศึกษาอาจนำไปใช้สำหรับการจัดการข้อมูลนักศึกษา เมื่อมีการสมัครเรียนใหม่ หรืออัปเดตข้อมูลส่วนตัวของนักเรียน
ในฐานะนักพัฒนา คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันเพื่อจัดเก็บข้อมูลด้านการศึกษาของนักเรียน เช่น ชื่อ อายุ วิชาเรียน และสามารถเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การดึงข้อมูลการเรียน การจัดการข้อมูลการสอบ และการส่งข่าวสารแบบอัตโนมัติให้กับนักเรียนได้
ในบทความนี้เราได้เรียนรู้การเขียน Code NoSQL CRUD โดยใช้ภาษา Python และ MongoDB รวมทั้งเห็นตัวอย่างการใช้งานที่ประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ การใช้ NoSQL จะช่วยให้การจัดการข้อมูลของคุณยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับการพัฒนาแอปพลิเคชันในยุคปัจจุบัน
หากคุณสนใจในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและการใช้ NoSQL สามารถศึกษาต่อได้ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่เราเตรียมคอร์สเรียนที่หลากหลายให้คุณได้เลือกเรียนรู้ตามความสนใจและความสามารถของคุณ รับรองว่าคุณจะได้เรียนรู้ในบรรยากาศที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความรู้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM