สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Cybersecurity

พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - Cybersecurity คืออะไร พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - CIA Triad (Confidentiality, Integrity, Availability) พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - การทำงานของระบบเครือข่าย (Networking Basics) พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - OSI Model พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - TCP/IP Stack พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - ความรู้เกี่ยวกับโปรโตคอลเครือข่าย (HTTP, HTTPS, FTP, DNS) พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - การจัดการ IP Address และ Subnetting พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - Firewall คืออะไร พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - การใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล พื้นฐานความรู้ด้าน Cybersecurity - การทำงานของ Proxy Server Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การตรวจจับการบุกรุก (Intrusion Detection Systems - IDS) Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การป้องกันการบุกรุก (Intrusion Prevention Systems - IPS) Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การวิเคราะห์ Packet ด้วย Wireshark Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - Network Sniffing คืออะไร Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การใช้ Nmap เพื่อสแกนเครือข่าย Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การทำ Port Scanning ด้วย Nmap Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การตรวจจับและจัดการ DDoS Attacks Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การตั้งค่า Firewall Rules เพื่อความปลอดภัย Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การใช้ SIEM (Security Information and Event Management) Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยเครือข่าย - การสร้างและวิเคราะห์ Log Files ในเครือข่าย Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การเข้ารหัส (Encryption) คืออะไร Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - Symmetric Encryption กับ Asymmetric Encryption Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การทำงานของ Public Key และ Private Key Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การทำงานของ TLS/SSL Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การใช้ OpenSSL สำหรับการเข้ารหัสข้อมูล Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การทำงานของ Digital Signature Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การใช้ Hashing Algorithms (MD5, SHA-256) Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การทำงานของ Certificate Authorities (CA) Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การทำ Key Exchange ด้วย Diffie-Hellman Algorithm Cybersecurity การเข้ารหัสและการจัดการกุญแจ - การจัดการกุญแจด้วย Public Key Infrastructure (PKI) Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - Vulnerability Scanning คืออะไร Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การใช้ Nessus ในการสแกนช่องโหว่ Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การใช้ OpenVAS ในการตรวจสอบช่องโหว่ Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การใช้ Metasploit สำหรับ Penetration Testing Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การตรวจสอบและแก้ไข Buffer Overflow Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - SQL Injection คืออะไร Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - Cross-Site Scripting (XSS) คืออะไร Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - Cross-Site Request Forgery (CSRF) Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การป้องกันและตรวจจับ Command Injection Cybersecurity การตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ - การทำ Hardening ระบบเพื่อป้องกันช่องโหว่ Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Malware คืออะไร Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - การตรวจจับและป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Ransomware คืออะไร Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Phishing Attack คืออะไร Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Social Engineering Attack Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Zero-Day Exploits คืออะไร Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - Spyware คืออะไร และวิธีป้องกัน Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - การทำงานของ Rootkits และวิธีการตรวจจับ Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - การป้องกัน Adware และการติดตาม Cybersecurity การป้องกันภัยคุกคาม - การจัดการภัยคุกคามด้วย Cyber Threat Intelligence (CTI) Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - Data Loss Prevention (DLP) คืออะไร Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บ (Data at Rest Encryption) Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การเข้ารหัสข้อมูลขณะส่งผ่าน (Data in Transit Encryption) Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การทำ Secure Backup และ Recovery Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - Data Masking คืออะไร Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การใช้ Tokenization เพื่อป้องกันข้อมูล Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การทำงานของ GDPR (General Data Protection Regulation) Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การทำ Data Sanitization Cybersecurity การจัดการความปลอดภัยของข้อมูล - การใช้การทำ Redaction เพื่อป้องกันข้อมูล Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การตั้งค่าการ Authentication และ Authorization Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การใช้ Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การใช้ OAuth2 เพื่อการยืนยันตัวตน Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การใช้ Single Sign-On (SSO) เพื่อการจัดการผู้ใช้ Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การจัดการสิทธิ์ในการเข้าถึง (Access Control) Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การตรวจสอบ Log Files เพื่อหาการเข้าถึงที่ผิดปกติ Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การทำ Patch Management เพื่อลดช่องโหว่ Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การทำ Hardening สำหรับระบบปฏิบัติการ Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การใช้ Web Application Firewall (WAF) Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การตรวจสอบและป้องกัน Backdoor ในระบบ Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การใช้เครื่องมือ SIEM เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคาม Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การตรวจสอบและวิเคราะห์ Log เพื่อหาเหตุการณ์ที่น่าสงสัย Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การวิเคราะห์ Malware เพื่อหาที่มาของการโจมตี Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การใช้ Honeypot เพื่อดักจับการโจมตี Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การทำ Threat Hunting เพื่อค้นหาภัยคุกคามในระบบ Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การทำ Incident Response Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การทำ Digital Forensics Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การสร้าง Incident Response Plan (IRP) Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การใช้ Playbook สำหรับ Incident Response Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การฝึกซ้อม Cybersecurity Incident Response (Tabletop Exercises) Cybersecurity การวิเคราะห์ภัยคุกคามและการรับมือ - การทำงานร่วมกับ Security Operations Center (SOC) Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การรักษาความปลอดภัยของระบบคลาวด์ (Cloud Security Basics) Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การใช้ Identity and Access Management (IAM) ใน Cloud Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การป้องกันข้อมูลใน Cloud ด้วยการเข้ารหัส Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การจัดการ Security Groups ใน Cloud Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การใช้ Cloud Security Posture Management (CSPM) Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การทำงานกับ Serverless Security Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การทำงานกับ Container Security (Docker, Kubernetes) Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การทำงานกับ Multi-Cloud Security Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การใช้ Cloud Access Security Broker (CASB) Cybersecurity ความปลอดภัยในระบบคลาวด์ - การจัดการความปลอดภัยใน Hybrid Cloud Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - DevOps และความสำคัญของความปลอดภัยใน DevSecOps Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การทำ Continuous Integration และ Continuous Deployment (CI/CD) Security Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การใช้ Infrastructure as Code (IaC) อย่างปลอดภัย Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การสแกนหาช่องโหว่ในโค้ดด้วย Static Application Security Testing (SAST) Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การทำ Dynamic Application Security Testing (DAST) Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การใช้ Security as Code (SaC) Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การใช้ Secret Management เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลลับ Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การทำ Secure Code Review Cybersecurity การทำงานร่วมกับ DevOps และ DevSecOps - การใช้ DevSecOps Tools เช่น Jenkins, GitLab, SonarQube เพื่อความปลอดภัย

Cybersecurity การรักษาความปลอดภัยระบบและแอปพลิเคชัน - การทำ Hardening สำหรับระบบปฏิบัติการ

 

เมื่อเราพูดถึง Cybersecurity หรือการป้องกันความปลอดภัยในโลกดิจิทัล หนึ่งในหัวข้อที่สำคัญมากคือการทำ System Hardening ซึ่งคือกระบวนการเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันของเรา ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักและทำความเข้าใจวิธีการที่ช่วยปกป้องข้อมูลของคุณจากการโจมตี

 

ความสำคัญของ System Hardening

ในยุคที่ข้อมูลมีค่ามหาศาลและภัยคุกคามในโลกไซเบอร์มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันจากการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายเป็นสิ่งจำเป็น Hardening คือการลดช่องโหว่ในระบบโดยเพิ่มการรักษาความปลอดภัย เช่น การปิดหรือกำหนดค่าบริการที่ไม่ได้ใช้งาน ตลอดจนการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ ที่เหมาะสม

 

การทำ Hardening ขั้นพื้นฐาน

1. การอัพเดตระบบ: การอัพเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อยู่เสมอ ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกเจาะข้อมูล เนื่องจากอัพเดตเหล่านี้มักแก้ไขช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ

2. การตั้งค่าไฟร์วอลล์: การกำหนดค่าของไฟร์วอลล์ให้เหมาะสมสามารถป้องกันการเข้าถึงแบบไม่ได้รับอนุญาตจากเครือข่ายภายนอก จำกัดทราฟฟิกที่มีความเสี่ยง และคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว

3. การจัดการบัญชีผู้ใช้: ลดจำนวนผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในการจัดการระบบให้เท่าที่จำเป็น ปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้ที่ไม่จำเป็น และใช้ password ที่ซับซ้อนและถูกเปลี่ยนเป็นประจำ

4. การปิดการใช้งานบริการที่ไม่จำเป็น: บริการหรือพอร์ตไหนที่ไม่ได้ใช้งาน ควรถูกปิดหรือปิดการเชื่อมต่อ เพื่อลดพื้นที่การโจมตี

 

กรณีศึกษา: การทำ Hardening บน Linux

Linux เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่การทำ Hardening ก็ยังจำเป็นเพราะความซับซ้อนของระบบที่ต้องการการดูแลเฉพาะ

1. การตั้งค่า SSH: การตั้งค่า SSH ด้วยการเปลี่ยนพอร์ตมาตรฐาน (22) เป็นพอร์ตอื่น ลดความเสี่ยงจากการถูกเข้าระบบโดยใช้โปรแกรมสุ่มรหัส (brute-force attack)


   # แก้ไขไฟล์ SSH config
   sudo nano /etc/ssh/sshd_config

   # เปลี่ยนพอร์ต
   Port 2222

   # เริ่ม SSH service ใหม่
   sudo systemctl restart sshd

2. การติดตั้งและตั้งค่า Fail2Ban: เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ brute-force, Fail2Ban จะบล็อก IP ของผู้ร้ายที่พยายามเชื่อมต่อผิดพลาดบ่อยๆ


   # ติดตั้ง Fail2Ban
   sudo apt-get install fail2ban

   # แก้ไขการตั้งค่า
   sudo nano /etc/fail2ban/jail.local

   # เพิ่มการตั้งค่า basic ban
   [sshd]
   enabled = true
   port = 2222
   maxretry = 5
   bantime = 3600

3. การปิดบริการที่ไม่จำเป็น: ลดการโจมตีด้วยการปิด service ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน


   # ดูรายการบริการที่กำลังทำงาน
   sudo systemctl list-unit-files --type=service --state=enabled

   # ปิดบริการที่ไม่จำเป็น
   sudo systemctl disable <service_name>
   sudo systemctl stop <service_name>

 

การทดสอบการทำ Hardening

หลังจากที่ได้ทำ Hardening ขั้นพื้นฐานแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการทดสอบว่าได้ทำไปถูกต้องหรือไม่ ใช้เครื่องมือ เช่น Lynis หรือ OpenVAS ในการช่วยประเมินและค้นหาช่องโหว่ที่อาจหลงเหลืออยู่

การทำระบบปฏิบัติการให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยการทำ Hardening จึงเป็นกระบวนการที่ควรทำอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการระบบอย่างเป็นระบบ หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมและการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันต่างๆ ที่ให้ความรู้และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน

การทำความเข้าใจและนำความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยไปใช้ สามารถทำให้คุณและองค์กรของคุณพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมั่นใจ

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา