ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวัน การใช้งานอินเตอร์เน็ตนับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เราช้อปปิ้งออนไลน์ ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ต และสื่อสารกับเพื่อนๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เข้าถึงได้ด้วยเพียงไม่กี่คลิก อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายเหล่านี้กลับเปิดช่องทางให้กับภัยคุกคามที่ชื่อว่า "Phishing Attack" (การโจมตีแบบฟิชชิง) ซึ่งมีความอันตรายและสามารถสร้างความเสียหายให้กับชีวิตดิจิทัลของเราได้
Phishing Attack เป็นรูปแบบของการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต โดยอาศัยเทคนิคการปลอมแปลงตัวตน ซึ่งมักจะมาในรูปแบบของอีเมล์หรือเว็บไซต์ที่ดูคล้ายคลึงกับบริษัทหรือบริการจริง
หนึ่งในวิธีการที่พบได้บ่อยคือการส่งอีเมล์ที่ทำให้ดูเหมือนว่ามาจากธนาคารหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีข้อความที่กระตุ้นให้เกิดความเร่งด่วน เช่น แจ้งว่าเราต้องรีบเข้าสู่ระบบเนื่องจากพบปัญหาในบัญชี เมื่อคลิกเข้าไปตามลิงก์ที่ให้มา เราจะถูกพาไปยังหน้าเว็บที่เป็นของปลอม ที่มีหน้าตาเหมือนกับเว็บไซต์จริงเพื่อหลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป
Phishing Attack เป็นรูปแบบการโจมตีที่นักโจมตีใช้เทคนิคทางวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ดังนี้:
1. การปลอมตัวเว็บไซต์: เว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาเพื่อหลอกให้ดูเหมือนเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง โดยจะใช้โดเมนที่คล้ายคลึงกัน เช่น เปลี่ยนแค่ตัวอักษรใน URL เพื่อให้เกิดความสับสน 2. การส่งอีเมล์หรือข้อความปลอม: มักจะเป็นข้อความที่สร้างความตระหนก เช่น แจ้งเตือนว่าบัญชีมีปัญหาหรือมีการพยายามเข้าสู่ระบบจากที่อยู่ที่ไม่รู้จัก พร้อมลิงก์ให้แก้ไขปัญหา 3. การใช้มัลแวร์: ในบางครั้งลิงก์ที่ให้มาจะนำไปสู่การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่มีมัลแวร์ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลได้
การตรวจจับ Phishing Website นั้นจำเป็นต้องใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ตัวอย่างด้านล่างนี้เป็นแนวทางในการพัฒนาโมเดลที่สามารถจำแนกเว็บไซต์ฟิชชิงได้
import pandas as pd
from sklearn.model_selection import train_test_split
from sklearn.ensemble import RandomForestClassifier
from sklearn.metrics import classification_report
# โหลดชุดข้อมูล URL
data = pd.read_csv('phishing_data.csv')
# แยกฟีเจอร์และเป้าหมาย
X = data.drop('Result', axis=1)
y = data['Result']
# แยกชุดข้อมูลเป็น training และ testing
X_train, X_test, y_train, y_test = train_test_split(X, y, test_size=0.2, random_state=42)
# ใช้โมเดล RandomForest ในการฝึก
model = RandomForestClassifier(n_estimators=100, random_state=42)
model.fit(X_train, y_train)
# ทำนายและตรวจสอบ
y_pred = model.predict(X_test)
print(classification_report(y_test, y_pred))
ในกรณีนี้ เราใช้ RandomForestClassifier จาก sklearn ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการในตระกูล Ensemble Learning ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานกับงานที่มีความซับซ้อน
Phishing Attack เป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรมองข้ามในยุคที่คนทั่วโลกพึ่งพาอินเตอร์เน็ตในการดำเนินชีวิต การตระหนักถึงความเสี่ยงและวิธีการป้องกันเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างความปลอดภัยแก่ข้อมูลของเรา การศึกษาเกี่ยวกับ cybersecurity นอกจากจะมีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ยังเป็นทักษะที่สามารถส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จในระยะยาว ถ้าคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและการป้องกันภัยคุกคามสามารถพิจารณาได้ที่สถานบันการเรียนสอนโปรแกรมมิ่ง EPT ที่พร้อมให้ความรู้ที่ตอบโจทย์โลกดิจิทัลในปัจจุบัน
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM