Dynamic Programming (DP) หรือการโปรแกรมแบบพลศาสตร์ คือเทคนิคการแก้ปัญหาหลายๆ แบบที่ปัญหาย่อยๆ ที่คล้ายกันมีการคำนวณซ้ำ ซึ่งทำให้เราสามารถทำการบันทึกผลลัพธ์ของปัญหาย่อยนั้นๆ เพื่อนำไปใช้ในขั้นตอนถัดไปได้ ด้วยแนวทางนี้ จึงช่วยลดเวลาในการคำนวณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในปัญหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Dynamic Programming คือปัญหา "การหาค่าฟีโบนักชี" (Fibonacci Sequence) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าคุณจะคำนวณฟีโบนักชี เช่น F(n) = F(n-1) + F(n-2) โดยที่ F(0) = 0 และ F(1) = 1 อาจจะใช้เวลา O(2^n) ซึ่งเป็นเวลาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ n เพิ่มขึ้น
โดยการใช้ Dynamic Programming เราสามารถปรับปรุงความเร็วได้เป็น O(n) โดยการเก็บผลลัพธ์ที่คำนวณไว้แล้วในอาร์เรย์หรือแมพที่เรียกว่า Memoization
ในโค้ดด้านบน เราได้สร้างฟังก์ชัน `fibonacci` ที่ใช้ Dynamic Programming โดยการสร้างอาร์เรย์ `memo` เพื่อเก็บค่าฟีโบนักชีที่ได้คำนวณไว้แล้ว จุดเด่นของโค้ดนี้คือมันทำงานได้เร็วและไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งช่วยลดเวลาในการคำนวณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Dynamic Programming สามารถนำไปใช้ในหลายสาขา เช่น การศึกษาทางการเงิน การวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย การตามหาทางที่ดีที่สุดในปัญหาต่างๆ เช่น "ปัญหาย่อยของแท็บเล็ต" (Knapsack Problem) หรือ "ปัญหาทางเดินในกราฟ" (Shortest Path in Graph)
ตัวอย่างการใช้งานในโลกจริงของ Dynamic Programming คือการสร้างแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการจองตั๋วเดินทางให้มีราคาถูกที่สุด โดยการใช้ DP ในการวิเคราะห์และคำนวณเส้นทางต่างๆ ที่มีราคาแตกต่างกัน และนำนโยบายการจองต่างๆ มาคำนวณให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
ในกรณีของ Fibonacci - โดยใช้ Dynamic Programming จะจัดอยู่ในกลุ่ม O(n) ซึ่งเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากเมื่อเปรียบเทียบกับ O(2^n) ของฟังก์ชัน Fibonacci ปกติ
* Time Complexity: O(n) * Space Complexity: O(n) (เนื่องจากต้องใช้พื้นที่เก็บ memoization)
ข้อดี
1. ประสิทธิภาพสูง: ลดเวลาในการคำนวณได้มากเมื่อเทียบกับการใช้ Recursive Funtions แบบธรรมดา 2. เข้าใจง่าย: หลักการแก้ปัญหาแบบย่อยทำให้สามารถเข้าใจและนำไปใช้ได้ง่าย 3. ใช้งานง่าย: ติดตั้งและเขียนโปรแกรมไม่ยุ่งยากในภาษาที่มีอิมพีเมนท์ทาง DPข้อเสีย
1. หน่วยความจำ: อาจใช้หน่วยความจำที่สูงในการเก็บ memoization ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบที่มีหน่วยความจำจำกัด 2. ความซับซ้อน: อาจทำให้โค้ดที่เขียนมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับโค้ด Recursive ธรรมดา 3. ไม่เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์: ไม่ใช่ทุกปัญหาที่สามารถใช้ Dynamic Programming ได้
Dynamic Programming เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาที่มีช่วงซ้ำซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการคำนวณค่าต่างๆ ที่สามารถใช้ memoization เข้ามาช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น ในบทความนี้เราได้เห็นตัวอย่างการใช้ DP ในการหาค่าฟีโบนักชีและการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของการใช้ DP ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวทางการใช้ Dynamic Programming ได้ดียิ่งขึ้น
หากคุณสนใจศึกษาหรือพัฒนาโปรแกรมโดยใช้ Dynamic Programming และเทคนิคเขียนโค้ดอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ โรงเรียน EPT ยินดีต้อนรับทุกคนที่ต้องการเรียนรู้ศาสตร์แห่งการเขียนโปรแกรม และเรามีหลักสูตรมากมายให้เลือกเรียนสมัครได้เลยวันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com