บทนำ
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาแอปพลิเคชันให้มีความยืดหยุ่นสูงเป็นสิ่งจำเป็น ระบบที่สามารถปรับตัวได้ง่ายจะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ระบบ Microservices เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม software architecture ที่นิยมใช้เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายนี้ โดย Microservices แบ่งแอปพลิเคชันออกเป็นบริการย่อย ๆ ที่สามารถพัฒนาและปรับปรุงได้อย่างอิสระ
หนึ่งในความท้าทายของการพัฒนา Microservices คือ ‘การสื่อสาร’ ระหว่างบริการย่อย ๆ เหล่านี้ การใช้ Message Queue คือวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสารนี้ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีการใช้ Message Queue ในการสื่อสารของ Microservices และประโยชน์ที่ได้รับจากมัน พร้อมกับตัวอย่างโค้ดการใช้งานที่น่าสนใจ
การสื่อสารใน Microservices
ในระบบที่มีการใช้ Microservices บริการต่าง ๆ จะแยกตัวออกจากกันซึ่งมีอิสระในการจัดการข้อมูลของตนเอง ด้วยความอิสระนี้ จึงต้องมีวิธีจัดการการสื่อสารระหว่างบริการย่อยให้มีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่ไม่ดีอาจทำให้ระบบทั้งหมดล้มเหลวได้ ตัวอย่างเช่น การใช้การสื่อสารผ่าน HTTP (REST) ที่ต้องใช้การเชื่อมต่อโดยตรง อาจทำให้บริการต่าง ๆ รับโหลดมากเกินไปหรือเมื่อมีปัญหาจะติดขัดพร้อมกันทั้งหมด
Message Queue กับการสื่อสารแบบ Asynchronous
Message Queue เป็นระบบการส่งข้อความที่สร้างคิวสำหรับการจัดเก็บข้อความที่ส่งมาจากผู้ส่งต่าง ๆ เพื่อรอการประมวลผลโดยผู้รับ ข้อดีหลักของ Message Queue คือรองรับการสื่อสารแบบ Asynchronous ทำให้บริการที่ส่งข้อความไม่จำเป็นต้องรอการตอบสนองทันทีจากบริการที่รับข้อความ กล่าวคือ บริการหนึ่งสามารถส่งข้อความออกไปแล้วดำเนินการต่อในสิ่งอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องรอความสำเร็จหรือข้อผิดพลาดของการส่งข้อมูลนั้น
ประโยชน์ของ Message Queue
1. ทนทานและน่าเชื่อถือ: ช่วยให้การสื่อสารค่อนข้างเสถียรในกรณีที่บริการบางตัวล้ม หรือไม่พร้อมให้บริการ 2. สเกลลิ่งได้ดี: สามารถกระจายโหลดระบบเมื่อมีการเพิ่มหรือลดการประมวลผลได้อัตโนมัติ ผ่านการควบคุมการอ่านหรือเขียนจากคิว 3. ลดความซับซ้อนของโค้ด: การจัดการ Message Queue ช่วยให้โค้ดมีความเป็นระเบียบและจัดการสิ่งที่ต้องทำรุปแบบ Asynchronous ได้ง่ายขึ้น 4. แยกความกังวลเรื่องเวลา: ทำให้การประมวลผลไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งช่วยในการจัดการโหลดตัวอย่างการใช้ Message Queue
สมมติว่าเรามีระบบ E-commerce ที่มี microservice สองตัวคือ "Order Service" และ "Inventory Service" เมื่อมีการสั่งซื้อเกิดขึ้น Order Service ต้องการแจ้ง Inventory Service ว่าจะต้องลดจำนวนสินค้าคงคลัง ระบบ Message Queue สามารถช่วยจัดการขั้นตอนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
# ตัวอย่างของ Producer (Order Service) ที่ส่งข้อความไปยัง Queue
import pika
def send_order_to_queue(order):
connection = pika.BlockingConnection(pika.ConnectionParameters('localhost'))
channel = connection.channel()
channel.queue_declare(queue='order_queue')
# ส่ง order เข้าคิว
channel.basic_publish(exchange='', routing_key='order_queue', body=order)
print(f" [x] Sent {order}")
connection.close()
order_data = '{"order_id": "12345", "product_id": "abcde", "quantity": 2}'
send_order_to_queue(order_data)
# ตัวอย่างของ Consumer (Inventory Service) ที่รับข้อความจาก Queue
import pika
def callback(ch, method, properties, body):
print(f" [x] Received {body}")
# Logic ในการอัปเดต inventory
connection = pika.BlockingConnection(pika.ConnectionParameters('localhost'))
channel = connection.channel()
channel.queue_declare(queue='order_queue')
channel.basic_consume(queue='order_queue', on_message_callback=callback, auto_ack=True)
print(' [*] Waiting for messages. To exit press CTRL+C')
channel.start_consuming()
ในที่นี้ Order Service จะทำหน้าที่เป็น Producer ที่ส่งข้อมูลการสั่งซื้อไปยังคิว และ Inventory Service จะทำหน้าที่เป็น Consumer ที่ดึงข้อมูลจากคิวเพื่อทำการอัปเดตจำนวนสินค้า รูปแบบการสื่อสารที่แยกจากกันนี้ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนและจัดการในกรณีที่ระบบส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา
สรุป
ในบรรดาแนวทางการพัฒนา Microservices การใช้ Message Queue ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการการสื่อสารระหว่างบริการย่อย ด้วยคุณสมบัติในการรองรับการสื่อสารแบบ Asynchronous และความสามารถในการรับมือกับความซับซ้อนและโหลดของระบบ การใช้ Message Queue จึงสามารถช่วยทำให้ Microservices มีความมีประสิทธิภาพและเสถียรมากขึ้น
หากคุณสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการพัฒนาระบบ Microservices รวมถึงการใช้ Message Queue คุณสามารถเข้ามาศึกษาได้ที่โรงเรียน Expert-Programming-Tutor (EPT) ที่จะพาคุณก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญในโลกของการเขียนโปรแกรม
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM