สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Unit Testing

พื้นฐานของ Unit Testing - Unit Testing คืออะไร พื้นฐานของ Unit Testing - การติดตั้ง JUnit สำหรับ Unit Testing ใน Java พื้นฐานของ Unit Testing - การสร้าง Test Case แรกด้วย JUnit พื้นฐานของ Unit Testing - การใช้ @Test Annotation ใน JUnit พื้นฐานของ Unit Testing - การใช้ assertEquals() เพื่อทดสอบค่า พื้นฐานของ Unit Testing - การใช้ assertTrue() และ assertFalse() พื้นฐานของ Unit Testing - การใช้ assertNull() และ assertNotNull() พื้นฐานของ Unit Testing - การใช้ assertThrows() เพื่อทดสอบข้อยกเว้น พื้นฐานของ Unit Testing - การทำงานร่วมกับ IDE สำหรับ Unit Testing พื้นฐานของ Unit Testing - การเขียน Unit Test สำหรับเมธอดที่รับพารามิเตอร์ การจัดการ Unit Testing - การตั้งค่าและทำความสะอาดก่อนและหลังการทดสอบด้วย @Before และ @After การจัดการ Unit Testing - การใช้ @BeforeAll และ @AfterAll การจัดการ Unit Testing - การใช้ @RepeatedTest สำหรับการทดสอบซ้ำๆ การจัดการ Unit Testing - การใช้ @ParameterizedTest เพื่อทดสอบหลายๆ ค่า การจัดการ Unit Testing - การจัดกลุ่มทดสอบด้วย @Nested การจัดการ Unit Testing - การใช้ @Tag เพื่อจัดหมวดหมู่การทดสอบ การจัดการ Unit Testing - การใช้ Timeout ในการทดสอบด้วย assertTimeout() การจัดการ Unit Testing - การเขียน Unit Test สำหรับคลาสที่มี Dependency การจัดการ Unit Testing - การ Mock ข้อมูลใน Unit Test ด้วย Mockito การจัดการ Unit Testing - การใช้ when-thenReturn() ใน Mockito Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การจับข้อยกเว้นใน Unit Test Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทดสอบเมธอดที่มีการเรียกใช้ I/O (ไฟล์, ฐานข้อมูล) Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทดสอบเมธอดที่ทำงานกับเครือข่าย Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทดสอบเมธอดที่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในทุกสถานการณ์ Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทดสอบการทำงานที่ต้องมีหลายเงื่อนไขด้วย Parameterized Tests Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทำ Code Coverage เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของ Unit Test Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การจัดการ Unit Test ที่เกี่ยวข้องกับคลาส Singleton Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทำ Test-Driven Development (TDD) Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การทำ Unit Test สำหรับคลาสที่มี Static Methods Unit Testing การทดสอบขั้นสูง - การจัดการกับการทดสอบในระบบ CI/CD

การจัดการ Unit Testing - การใช้ Timeout ในการทดสอบด้วย assertTimeout()

 

การทดสอบซอฟต์แวร์เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่ซอฟต์แวร์จะถูกใช้งานจริง ในบทความนี้เราจะสำรวจหัวข้อของ Unit Testing ซึ่งเป็นการทดสอบระดับย่อยที่มุ่งเน้นการทดสอบฟังก์ชันเฉพาะ และเน้นไปที่การใช้ `assertTimeout()` ในการจัดการการทดสอบที่อาจใช้เวลานานเกินไป

 

ทำความเข้าใจกับ Unit Testing

Unit Testing เป็นการทดสอบที่เน้นไปที่การตรวจสอบหน่วยที่เล็กที่สุดของซอฟต์แวร์ ซึ่งก็คือฟังก์ชัน หรือเมธอดต่าง ๆ เราใช้ Unit Testing เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนซอฟต์แวร์แต่ละชิ้นทำงานได้อย่างถูกต้องและตามที่คาดหวัง ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน Unit Testing กลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้โค้ดมีคุณภาพสูงและสามารถบำรุงรักษาได้ง่าย

ตัวอย่างการใช้งาน Unit Testing

ลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นฟังก์ชันง่าย ๆ ที่บวกสองจำนวน:


public class Calculator {
    public int add(int a, int b) {
        return a + b;
    }
}

ในการทดสอบฟังก์ชันนี้เราสามารถสร้าง Unit Test ได้ดังนี้:


import static org.junit.jupiter.api.Assertions.assertEquals;
import org.junit.jupiter.api.Test;

public class CalculatorTest {

    @Test
    public void testAdd() {
        Calculator calculator = new Calculator();
        assertEquals(5, calculator.add(2, 3), "2 + 3 should equal 5");
    }
}

ในตัวอย่างนี้เราใช้ `assertEquals` เพื่อตรวจสอบว่าผลลัพธ์ของฟังก์ชัน `add` นั้นตรงกับที่เราคาดการณ์ไว้หรือไม่ นี่เป็นตัวอย่างของการทดสอบที่เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา

 

การใช้ `assertTimeout()` ใน Unit Testing

ในการทดสอบบางครั้งเราอาจต้องการทดสอบการทำงานของฟังก์ชันที่อาจใช้เวลาในการประมวลผลนาน เช่น การสืบค้นข้อมูลจำนวนมาก หรือการทำงานที่ขึ้นกับเครือข่าย การทดสอบเหล่านี้อาจทำให้ Unit Test ใช้เวลานานและส่งผลต่อประสิทธิภาพการทดสอบรวม หากเราคาดหวังว่าฟังก์ชันบางอย่างควรจะทำงานภายในเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น เราสามารถใช้ `assertTimeout()` จาก JUnit เพื่อกำหนดเวลาให้กับการทดสอบเหล่านี้ได้


import static org.junit.jupiter.api.Assertions.assertTimeout;
import java.time.Duration;
import org.junit.jupiter.api.Test;

public class TimeConsumingTest {

    @Test
    public void testTimeConsumingMethod() {
        Calculator calculator = new Calculator();

        assertTimeout(Duration.ofSeconds(1), () -> {
            // Method that should finish within 1 second
            calculator.performLongCalculation();
        });
    }
}

ในตัวอย่างข้างต้น `assertTimeout` ตรวจสอบว่าฟังก์ชัน `performLongCalculation` ทำงานเสร็จภายใน 1 วินาที และหากทำงานเกินเวลาที่กำหนด การทดสอบนี้จะไม่ผ่าน ซึ่งทำให้เราสามารถระบุปัญหาด้านประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว

 

การใช้ Use case และการตั้งค่า Timeout อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ `assertTimeout()` ให้มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ที่ดีเมื่อคุณตั้งเวลาของคุณ ต้องพิจารณาลักษณะของงานที่ฟังก์ชันนั้น ๆ กำลังทำ เช่น หากเป็นการทำงานที่มีการเรียกเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ก็ควรเผื่อเวลาให้เพียงพอ และควรทดสอบในเงื่อนไขที่คล้ายกับสภาพแวดล้อมจริงมากที่สุด

Use Case การใช้ `assertTimeout()`

1. ฟังก์ชันที่มีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก: หากคุณกำลังพัฒนาฟังก์ชันที่ต้องประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เช่นการประมวลผลไฟล์ หรือการคำนวณเชิงลึก `assertTimeout()` สามารถใช้เพื่อยืนยันว่าฟังก์ชันนี้ไม่ใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนด

2. ฟังก์ชันที่เรียกใช้บริการเครือข่าย: ในการพัฒนาที่ต้องเรียก API ภายนอก หรือดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การใช้ `assertTimeout()` ช่วยให้มั่นใจว่าการทำงานทางเครือข่ายเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหาความล่าช้าจากระบบ

 

ข้อเสนอแนะสำหรับการใช้งานจริง

1. คำนึงถึงค่าเริ่มต้น: อย่าสุ่มสี่สุ่มห้ากำหนดระยะเวลาที่สั้นเกินไปศึกษาว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือส่วนที่แปรปรวนกี่มากน้อยในระบบงานปกติ เพื่อสร้าง timeout ที่เหมาะสม

2. การจำลองสถานะ: เมื่อทดสอบควรพิจารณาถึงการจำลองการโหลดของระบบในระดับปกติและสูง เพื่อให้สามารถเปิดเผยปัญหาที่อาจไม่ชัดเจนในสถานการณ์จริง

 

บทสรุป

การจัดการการทดสอบ Unit Testing โดยใช้ `assertTimeout()` เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการจัดการปัญหาด้านเวลาและประสิทธิภาพของฟังก์ชันที่ทำงานช้า สามารถช่วยแยกแยะและระบุปัญหาที่อาจก่อให้เกิดการชะลอตัวในระบบงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่สนใจเพิ่มทักษะในด้านการทดสอบและการพัฒนาซอฟต์แวร์ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และหากท่านต้องการความรู้เพิ่มเติม การเรียนกับสถาบันที่เชี่ยวชาญอย่าง EPT จะช่วยท่านให้บรรลุเป้าหมายได้ด้วยการเรียนรู้ที่มีการแนะนำจากผู้มีประสบการณ์โดยตรงในวงการโปรแกรมมิ่ง

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา