ในยุคที่การพัฒนาแอปพลิเคชันเว็บก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่ทำให้การสื่อสารระหว่างเว็บบราวเซอร์และเซิร์ฟเวอร์เป็นไปได้อย่างราบรื่นคือ AJAX (Asynchronous JavaScript and XML) โดย AJAX ได้นำเอา XML มาใช้เป็นรูปแบบข้อมูลที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งเป็นหัวข้อที่เราจะมาทำความเข้าใจในบทความนี้
XML (eXtensible Markup Language) คือภาษาที่ใช้ในการสร้างและจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบที่มีโครงสร้างความยืดหยุ่น ข้อได้เปรียบของ XML คือสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่ายทั้งจากเครื่องและมนุษย์ XML มักถูกใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบต่าง ๆ เนื่องจากความยืดหยุ่นและมาตรฐานการจัดรูปแบบที่สามารถปรับแต่งได้
ตัวอย่างโครงสร้าง XML:
<book>
<title>Introduction to AJAX</title>
<author>John Doe</author>
<year>2023</year>
</book>
จากโครงสร้างข้างต้น จะเห็นได้ว่า XML ใช้แท็กในการกำหนดชนิดและรายละเอียดของข้อมูล ซึ่งทางจิตนาการจะช่วยให้ระบบที่แตกต่างกันสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยมีความเข้าใจที่ตรงกัน
AJAX เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เว็บแอปพลิเคชันสามารถร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์แบบเบื้องหลัง โดยไม่ต้องรีเฟรชทั้งหน้าเว็บ โครงสร้างของ AJAX ประกอบด้วยการใช้ JavaScript เพื่อส่งคำขอ HTTP ไปยังเซิร์ฟเวอร์ และโดยปกติการตอบรับจะถูกส่งกลับในรูปแบบข้อมูลที่สามารถจัดการได้ ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่นิยมที่สุดคือ XML
ตัวอย่างการใช้งาน XML ใน AJAX
ต่อไปนี้คือตัวอย่างง่าย ๆ ของการใช้ XML ร่วมกับ AJAX:
HTML:
<button onclick="loadXMLDoc()">Load XML</button>
<div id="content"></div>
JavaScript:
function loadXMLDoc() {
var xmlhttp = new XMLHttpRequest();
xmlhttp.onreadystatechange = function() {
if (this.readyState == 4 && this.status == 200) {
parseXML(this);
}
};
xmlhttp.open("GET", "books.xml", true);
xmlhttp.send();
}
function parseXML(xml) {
var xmlDoc = xml.responseXML;
var display = "";
var books = xmlDoc.getElementsByTagName("book");
for (var i = 0; i < books.length; i++) {
display += "Title: " + books[i].getElementsByTagName("title")[0].childNodes[0].nodeValue + "<br>";
display += "Author: " + books[i].getElementsByTagName("author")[0].childNodes[0].nodeValue + "<br>";
display += "Year: " + books[i].getElementsByTagName("year")[0].childNodes[0].nodeValue + "<br><br>";
}
document.getElementById("content").innerHTML = display;
}
ในตัวอย่างนี้ เรามีไฟล์ XML ชื่อ `books.xml` ที่เก็บข้อมูลหนังสือหลายเล่ม และใช้ AJAX เพื่อดึงข้อมูลนั้นแล้วแสดงบนหน้าเว็บ
ถึงแม้ว่า XML จะมีข้อดีหลายประการ เช่น ความยืดหยุ่นและการทำให้อ่านได้ง่าย แต่ก็มักถูกวิจารณ์ในเรื่องขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบข้อมูลอื่น ๆ เช่น JSON ที่มีขนาดเล็กกว่าและง่ายต่อการใช้งานใน JavaScript
การที่ JSON เริ่มเข้ามาแทนที่ XML ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันนั้นเป็นเพราะ JSON ง่ายต่อการจัดการด้วย JavaScript ทั้งยังบริโภคทรัพยากรที่น้อยกว่าและโหลดได้เร็วกว่า แต่ไม่แปลว่า XML จะล้าสมัย ด้วยคุณสมบัติที่ XML มีสามารถใช้ในการพัฒนาในงานเฉพาะทางที่มีการกำหนดโครงสร้างข้อมูลอย่างชัดเจน
XML ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับ AJAX สำหรับโปรเจ็กต์ที่ต้องการความสามารถในการทำงานที่ไม่ต้องรีเฟรชหน้า การที่นักพัฒนาเข้าใจและสามารถใช้ XML ร่วมกับ AJAX จะช่วยเพิ่มทักษะในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับความสามารถและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บอย่างลงลึกกว่าเดิม การลงทะเบียนเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่นี่มีคอร์สหลากหลายที่เจาะลึกถึงการใช้งานทั้ง XML และ AJAX ภายใต้การสอนจากผู้เชี่ยวชาญในวงการโปรแกรมมิง
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM