สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Tree

Tree ใน Data Structures - Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - Binary Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - Binary Search Tree (BST) คืออะไร Tree ใน Data Structures - การสร้าง Binary Search Tree Tree ใน Data Structures - การค้นหาข้อมูลใน Binary Search Tree Tree ใน Data Structures - การแทรกข้อมูลใน Binary Search Tree Tree ใน Data Structures - การลบข้อมูลใน Binary Search Tree Tree ใน Data Structures - Balanced Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - AVL Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - การสร้าง AVL Tree Tree ใน Data Structures - การปรับสมดุล AVL Tree Tree ใน Data Structures - Red-Black Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - การทำงานของ Red-Black Tree Tree ใน Data Structures - B-Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - B+ Tree คืออะไร Tree ใน Data Structures - การประยุกต์ใช้งาน Tree ในการแก้ปัญหา เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C++ ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Java ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C# ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน VB.NET ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Python ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Golang ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน JavaScript ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Perl ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Lua ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Rust ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Php โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Next โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Node.is โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา fortran โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Delphi Object Pascal โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา MATLAB โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Swift โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Kotlin โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา COBOL โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Objective-C โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Dart โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Scala โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา R language โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา TypeScript โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Abap โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา VBA โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Julia โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Haskell โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Groovy โดยใช้ Tree พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน PHP ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Next.js ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Node.js ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Fortran ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Delphi Object Pascal ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน MATLAB ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Swift ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Kotlin ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน COBOL ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Objective-C ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Dart ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Scala ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน R language ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน TypeScript ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน ABAP ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน VBA ผ่าน Tree** เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Julia ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Haskell ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Groovy ผ่าน Tree เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Ruby ผ่าน Tree

Tree ใน Data Structures - การสร้าง AVL Tree

 

# เรียนรู้โครงสร้างข้อมูล Tree กับการสร้าง AVL Tree

โครงสร้างข้อมูล (Data Structure) เป็นหนึ่งในหัวใจของการเขียนโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ในบรรดาโครงสร้างข้อมูลต่าง ๆ Tree เป็นโครงสร้างที่มีการใช้งานหลากหลายและมักใช้ในการจัดการข้อมูลที่มีความซับซ้อน ในบทความนี้เราจะสำรวจความหมายของ Tree และเน้นไปที่ AVL Tree ซึ่งเป็นหนึ่งในทรงพลังของ Tree ที่สามารถรักษาสมดุลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา แทรก และลบข้อมูล

 

Tree ในโครงสร้างข้อมูล

Tree เป็นโครงสร้างข้อมูลที่มีลักษณะเป็นลำดับชั้น (hierarchical) ประกอบไปด้วยโหนด (nodes) ซึ่งโหนดจะเชื่อมโยงกันด้วยขอบ (edges) มีคุณลักษณะสำคัญคือมีโหนดราก (root node) ที่เป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นสามารถมีโหนดย่อย (child nodes) และโหนดผู้ปกครอง (parent node) จนถึงโหนดยอด (leaf nodes) ที่ไม่มีโหนดย่อย

ประเภทของ Tree

- Binary Tree: เป็น Tree ที่แต่ละโหนดมีโหนดย่อยได้ไม่เกินสองโหนด - Binary Search Tree (BST): เป็น Binary Tree ที่โหนดด้านซ้ายจะมีค่าน้อยกว่าโหนดพ่อ ส่วนโหนดด้านขวาจะมีค่ามากกว่าโหนดพ่อ - AVL Tree: เป็น Binary Search Tree ที่มีความสมดุลของความสูงระหว่างโหนดซ้ายและขวา ซึ่งจะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนถัดไป

 

AVL Tree คืออะไร?

AVL Tree ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาของความไม่สมดุลใน Binary Search Tree การไม่สมดุลนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพในการค้นหา แทรก และลบข้อมูล โดย AVL Tree ได้รับการออกแบบให้รักษาสมดุลของทุกโหนดผ่านการหมุน (rotations) เพื่อรักษาให้ส่วนสูงของโหนดทางซ้ายและขวาต่างกันไม่เกิน 1

การหมุนใน AVL Tree

1. การหมุนแบบซ้าย (Left Rotation): ใช้เมื่อโหนดลูกแฝงทางขวาของโหนดหลักเกิดสูงเกินไป 2. การหมุนแบบขวา (Right Rotation): ใช้เมื่อโหนดลูกแฝงทางซ้ายของโหนดหลักเกิดสูงเกินไป 3. การหมุนแบบซ้าย-ขวา (Left-Right Rotation): เป็นการหมุนสองขั้นตอน เริ่มจากการหมุนแบบซ้ายที่โหนดย่อย และตามด้วยการหมุนแบบขวาที่โหนดหลัก 4. การหมุนแบบขวา-ซ้าย (Right-Left Rotation): เป็นการหมุนสองขั้นตอน เริ่มจากการหมุนแบบขวาที่โหนดย่อย และตามด้วยการหมุนแบบซ้ายที่โหนดหลัก

ขั้นตอนการแทรกใน AVL Tree

การแทรกข้อมูลใน AVL Tree นั้นเริ่มต้นเหมือนการแทรกใน Binary Search Tree คือค้นหาตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วทำการแทรก จากนั้นจะมีขั้นตอนการตรวจสอบและแก้ไขสมดุลด้วยการหมุนหากจำเป็น ตัวอย่างโค้ดการแทรกมีดังนี้:


class Node:
    def __init__(self, key):
        self.left = None
        self.right = None
        self.val = key
        self.height = 1

def insert(root, key):
    if not root:
        return Node(key)
    elif key < root.val:
        root.left = insert(root.left, key)
    else:
        root.right = insert(root.right, key)

    root.height = 1 + max(get_height(root.left), get_height(root.right))

    balance = get_balance(root)

    if balance > 1 and key < root.left.val:
        return rotate_right(root)
    if balance < -1 and key > root.right.val:
        return rotate_left(root)
    if balance > 1 and key > root.left.val:
        root.left = rotate_left(root.left)
        return rotate_right(root)
    if balance < -1 and key < root.right.val:
        root.right = rotate_right(root.right)
        return rotate_left(root)

    return root

def get_height(root):
    if not root:
        return 0
    return root.height

def get_balance(root):
    if not root:
        return 0
    return get_height(root.left) - get_height(root.right)

def rotate_left(z):
    y = z.right
    T2 = y.left
    y.left = z
    z.right = T2
    z.height = 1 + max(get_height(z.left), get_height(z.right))
    y.height = 1 + max(get_height(y.left), get_height(y.right))
    return y

def rotate_right(y):
    x = y.left
    T2 = x.right
    x.right = y
    y.left = T2
    y.height = 1 + max(get_height(y.left), get_height(y.right))
    x.height = 1 + max(get_height(x.left), get_height(x.right))
    return x

 

ประโยชน์ของการใช้ AVL Tree

การใช้ AVL Tree นั้นมีประโยชน์ในการรักษาความสำคัญของเวลาในการดำเนินการค้นหา แทรก และลบ ซึ่งจะมีเวลาในเชิงเส้นของ O(log n) เนื่องจากการรักษาสมดุลความสูงของ Tree นอกจากนี้ยังมีความน่าเชื่อถือและไม่ต้องการการทำงานภายหลังในเรื่องการปรับโครงสร้าง

 

สรุป

AVL Tree เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการปรับปรุงและปรับสมดุลของ Tree ที่ไม่เพียงทำให้การดำเนินการสแกนหา แทรก และลบมีประสิทธิภาพสูง แต่ยังสามารถมีบทเรียนในเรื่องการออกแบบ ระบบ หรือซอฟต์แวร์เมื่อต้องเผชิญกับข้อมูลจำนวนมาก หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะในเรื่องของโครงสร้างข้อมูลและการเขียนโปรแกรม สามารถศึกษาต่อได้ที่ Expert Programming Tutor (EPT) ที่มีหลักสูตรหลากหลายรอคุณในการก้าวเข้าสู่โลกของการเขียนโปรแกรมอย่างมืออาชีพ!

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา