สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Spring

Spring Framework พื้นฐาน - Spring Framework คืออะไร Spring Framework พื้นฐาน - ความแตกต่างระหว่าง Spring และ Spring Boot Spring Framework พื้นฐาน - การติดตั้ง Spring Framework Spring Framework พื้นฐาน - การตั้งค่าโปรเจกต์ Spring ด้วย Maven/Gradle Spring Framework พื้นฐาน - IoC (Inversion of Control) คืออะไร Spring Framework พื้นฐาน - DI (Dependency Injection) คืออะไร Spring Framework พื้นฐาน - Bean ใน Spring คืออะไร Spring Framework พื้นฐาน - การสร้างและจัดการ Bean ใน Spring Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @Component และ @Service ในการสร้าง Bean Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @Autowired เพื่อ Inject Dependencies Spring Framework พื้นฐาน - การทำงานของ ApplicationContext ใน Spring Spring Framework พื้นฐาน - Bean Scope ใน Spring (Singleton, Prototype) Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @Configuration และ @Bean ใน Spring Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @Qualifier เพื่อเลือก Bean Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @Primary เพื่อกำหนด Bean หลัก Spring Framework พื้นฐาน - ความแตกต่างระหว่าง @Autowired และ @Resource Spring Framework พื้นฐาน - การทำงานกับ Property Files ใน Spring Spring Framework พื้นฐาน - การอ่านค่า Property ด้วย @Value Spring Framework พื้นฐาน - การใช้ @PropertySource เพื่อโหลดไฟล์ Property Spring Framework พื้นฐาน - การทำงานกับ Profiles ใน Spring (@Profile) Spring AOP - AOP ใน Spring คืออะไร Spring AOP - การใช้ @Aspect เพื่อสร้าง Aspect Spring AOP - การใช้ @Before เพื่อทำงานก่อนเมธอด Spring AOP - การใช้ @After เพื่อทำงานหลังเมธอด Spring AOP - การใช้ @Around เพื่อควบคุมการทำงานของเมธอด Spring AOP - การใช้ @AfterReturning เพื่อจัดการผลลัพธ์ที่คืนจากเมธอด Spring AOP - การใช้ Pointcut Expressions ใน AOP Spring AOP - การสร้าง Custom Annotations ด้วย AOP Spring AOP - การจัดการข้อยกเว้นใน AOP ด้วย @AfterThrowing Spring AOP - การใช้ Proxy ใน Spring AOP Spring Data Access - การทำงานกับ JDBC ใน Spring Spring Data Access - Spring JDBC Template คืออะไร Spring Data Access - การใช้ JDBC Template เพื่อรัน Query Spring Data Access - การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล MySQL ด้วย Spring JDBC Spring Data Access - การใช้ RowMapper เพื่อแมปผลลัพธ์จากฐานข้อมูล Spring Data Access - การทำ Transaction Management ใน Spring Spring Data Access - การใช้ @Transactional ในการจัดการทรานแซคชั่น Spring Data Access - การใช้ DataSource ใน Spring Spring Data Access - Spring ORM (Object-Relational Mapping) คืออะไร Spring Data Access - การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลด้วย Hibernate และ Spring Spring MVC - Spring MVC คืออะไร Spring MVC - การสร้าง Controller ใน Spring MVC ด้วย @Controller Spring MVC - การใช้ @RequestMapping เพื่อแมป URL Spring MVC - การใช้ @GetMapping และ @PostMapping Spring MVC - การรับค่าพารามิเตอร์จาก URL ด้วย @RequestParam Spring MVC - การใช้ @PathVariable เพื่อจับค่าจาก URL Spring MVC - การส่งข้อมูลกลับจาก Controller ด้วย @ResponseBody Spring MVC - การใช้ Model และ View ใน Spring MVC Spring MVC - การจัดการกับฟอร์มใน Spring MVC Spring MVC - การอัปโหลดไฟล์ด้วย Spring MVC Spring Boot พื้นฐาน - Spring Boot คืออะไร Spring Boot พื้นฐาน - การติดตั้ง Spring Boot CLI Spring Boot พื้นฐาน - การสร้างโปรเจกต์ Spring Boot ด้วย Spring Initializr Spring Boot พื้นฐาน - การทำงานของไฟล์ application.properties Spring Boot พื้นฐาน - การใช้ไฟล์ application.yml แทน application.properties Spring Boot พื้นฐาน - การรันแอปพลิเคชัน Spring Boot ด้วย mvn spring-boot:run Spring Boot พื้นฐาน - Auto Configuration ใน Spring Boot คืออะไร Spring Boot พื้นฐาน - การใช้ @SpringBootApplication Spring Boot พื้นฐาน - Spring Boot Starters คืออะไร Spring Boot พื้นฐาน - การใช้ DevTools ใน Spring Boot สำหรับ Hot Reload Spring Boot Web Application - การสร้าง REST API ด้วย Spring Boot Spring Boot Web Application - การสร้าง Controller ใน Spring Boot Spring Boot Web Application - การจัดการกับ HTTP GET และ POST ใน Spring Boot Spring Boot Web Application - การใช้ @RestController ในการสร้าง REST API Spring Boot Web Application - การใช้ @RequestMapping และ @GetMapping ใน Spring Boot Spring Boot Web Application - การส่ง Response ด้วย JSON ใน Spring Boot Spring Boot Web Application - การใช้ @RequestBody เพื่อรับข้อมูล JSON Spring Boot Web Application - การใช้ @PathVariable ใน Spring Boot Spring Boot Web Application - การรับค่าจาก Query Parameters ด้วย @RequestParam Spring Boot Web Application - การจัดการ Error Handling ใน Spring Boot REST API Spring Boot Data Access - การใช้ Spring Data JPA กับ Spring Boot Spring Boot Data Access - การตั้งค่า DataSource ใน Spring Boot Spring Boot Data Access - การเชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL ใน Spring Boot Spring Boot Data Access - การใช้ @Entity และ @Table เพื่อสร้าง Entity ใน JPA Spring Boot Data Access - การใช้ @Id และ @GeneratedValue ในการสร้าง Primary Key Spring Boot Data Access - การสร้าง Repository ด้วย JpaRepository Spring Boot Data Access - การใช้ @Query เพื่อสร้าง Custom Queries Spring Boot Data Access - การจัดการ One-to-Many Relationships ใน JPA Spring Boot Data Access - การจัดการ Many-to-Many Relationships ใน JPA Spring Boot Data Access - การใช้ Spring Boot กับ H2 Database สำหรับการทดสอบ Spring Security - Spring Security คืออะไร Spring Security - การเพิ่ม Spring Security ในโปรเจกต์ Spring Security - การกำหนด Basic Authentication ด้วย Spring Security Spring Security - การกำหนด Role และ Permissions ใน Spring Security Spring Security - การใช้ Custom Login Page ใน Spring Security Spring Security - การใช้ JWT (JSON Web Token) ใน Spring Security Spring Security - การทำ OAuth2 Authentication ใน Spring Boot Spring Security - การใช้ Security Filters ใน Spring Security Spring Security - การจัดการกับ CSRF (Cross-Site Request Forgery) ใน Spring Security Spring Security - การใช้ BCrypt ในการเข้ารหัสรหัสผ่าน Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การเขียน Unit Test ด้วย JUnit ใน Spring Boot Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การเขียน Integration Test ใน Spring Boot Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การใช้ Spring Boot Test เพื่อทดสอบ REST API Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การใช้ MockMVC เพื่อทดสอบ Controller Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การทำ Logging ใน Spring Boot ด้วย SLF4J Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การใช้ Actuator ใน Spring Boot เพื่อตรวจสอบสถานะของแอปพลิเคชัน Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การตั้งค่า Health Check Endpoint ด้วย Spring Boot Actuator Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การใช้งาน Spring Boot Admin เพื่อจัดการแอปพลิเคชัน Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การทำงานกับ Microservices ด้วย Spring Cloud Spring Boot การทดสอบและการจัดการอื่น ๆ - การใช้ Spring Boot กับ Docker

Spring AOP - การจัดการข้อยกเว้นใน AOP ด้วย @AfterThrowing

 

เมื่อพูดถึงการพัฒนาแอพพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในโลกของ Java Spring Framework หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถของระบบคือ Aspect-Oriented Programming (AOP) หรือการโปรแกรมเชิงแง่มุม ที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่น การจัดการทรานแซคชัน การตรวจสอบความปลอดภัย และการจัดการข้อยกเว้น โดยที่ไม่รบกวนโค้ดหลักของแอพพลิเคชัน

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการใช้คำสั่ง `@AfterThrowing` ใน Spring AOP เพื่อจัดการกับข้อยกเว้น (Exceptions) ที่อาจเกิดขึ้นในแอพพลิเคชันของเรา

 

เข้าใจ AOP เบื้องต้น

AOP เป็นแนวคิดในการเพิ่มความสามารถให้กับการเขียนโปรแกรม โดยการแยก 'ความกังวล' หรือความสนใจที่มีการกระทำกันบ่อยๆ (cross-cutting concerns) ออกจากโค้ดหลัก เช่น การบันทึก log การจัดการข้อยกเว้น เป็นต้น ทำให้ง่ายต่อการพัฒนา ดูแลและปรับปรุงระบบ

AOP ประกอบด้วย:

- Aspect: คือตัวแทนของความกังวลด้านข้ามที่จะแนบไปยังโค้ดหลัก - Advice: เป็นการกระทำที่กำหนดให้ประกอบเข้ากับ method หรือตัวแทนในโปรแกรม - Join Point: จุดที่สามารถแนบ advice ลงไปได้ - Pointcut: การกำหนดเงื่อนไขหรือขอบเขตที่ระบุว่า join point ใดบ้างที่ advice ควรจะถูกนำไปใช้

 

การจัดการข้อยกเว้นด้วย @AfterThrowing

`@AfterThrowing` เป็นหนึ่งในหลายๆ คำสั่งของ Spring AOP ที่แสดงถึงคำสั่งให้กระทำการหลังจากที่ method ใดๆ ได้โยนข้อยกเว้นขึ้นมาแล้ว

ตัวอย่างการใช้งาน @AfterThrowing

ดังตัวอย่างที่จะกล่าวต่อไปนี้ เรามีบริการที่เรียกว่า `OrderService` ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้า:


public class OrderService {
    public void placeOrder(String product) throws Exception {
        if (product == null) {
            throw new Exception("Product cannot be null");
        }
        // logic for placing order
        System.out.println("Order placed for: " + product);
    }
}

จากนั้นเราจะสร้าง Aspect เพื่อติดตามการโยนข้อยกเว้นดังนี้:


import org.aspectj.lang.annotation.AfterThrowing;
import org.aspectj.lang.annotation.Aspect;
import org.springframework.stereotype.Component;

@Aspect
@Component
public class LoggingAspect {

    @AfterThrowing(pointcut = "execution(* com.example.demo.OrderService.placeOrder(..))", throwing = "ex")
    public void logException(Exception ex) {
        System.out.println("A problem occurred: " + ex.getMessage());
    }
}

ในโค้ดด้านบน เราได้สร้างคลาส `LoggingAspect` ซึ่งมาประกาศเป็น Aspect ด้วย `@Aspect` และประกอบเข้าไปใน Spring ด้วย `@Component` จากนั้นใช้คำสั่ง `@AfterThrowing` เพื่อกำหนดให้ `logException` ทำงานเมื่อเกิดข้อยกเว้นจากการเรียกใช้ `placeOrder` โดยที่เรากำหนดให้ค่า `throwing` คือ `ex` ซึ่งบ่งชี้ว่าข้อความที่โยนขึ้นมาคืออะไร

การประยุกต์ใช้งาน

การจัดการข้อยกเว้นด้วย AOP แยกหน้าที่ออกจาก business logic อย่างชัดเจน ทำให้การดูแลรักษาโค้ดในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การเพิ่มเติมหรือลบ logic ของการจัดการข้อยกเว้นในแอพพลิเคชันของเราสามารถทำได้อย่างเป็น modular ซึ่งจะทำให้การทดสอบและการดีบักโค้ดเกิดขึ้นได้รวดเร็วมากขึ้น

 

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ AOP ในการจัดการข้อยกเว้น

ข้อดี

1. Separation of Concerns: ช่วยให้แยกความกังวลด้านข้ามออกจากโค้ดหลัก จึงทำให้โค้ดหลักสะอาดและอ่านง่าย 2. Reusable: Logic ที่จัดการข้อยกเว้นสามารถถูกนำไปใช้ได้ซ้ำกับหลายจุดในแอพพลิเคชัน 3. Modularization: ทำให้โค้ดที่รับผิดชอบพฤติกรรมเดียวเป็นโมดูลที่แยกออกจากกัน 4. Maintainability: ด้วยการแยกหน้าที่ออกมาจากโค้ดหลัก ทำให้การปรับปรุงและบำรุงรักษาโค้ดเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน

ข้อเสีย

1. Complexity: AOP สามารถเพิ่มความซับซ้อนในการเข้าใจแอพพลิเคชัน เนื่องจาก behavior บางอย่างไม่ได้กำหนดโดยตรงในโค้ดหลัก 2. Debugging: การตามร่องรอยข้อผิดพลาดหรือ debugging อาจจะทำได้ยากขึ้นเมื่อ behavior ถูกแนบมาแบบ runtime 3. Performance Overhead: ในบางกรณี อาจสร้างภาระให้กับ system performance หากใช้งาน AOP ในการตรวจจับ join point จำนวนมาก

 

ข้อสรุป

AOP โดยเฉพาะการจัดการข้อยกเว้นด้วย `@AfterThrowing` ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเขียนแอพพลิเคชันที่มีโมดูลสูงใน Spring Framework แม้ว่าอาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง แต่หากใช้อย่างเหมาะสมจะสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับการพัฒนาและดูแลรักษาระบบอย่างยั่งยืนได้ หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการโปรแกรมเชิงแง่มุม (AOP) รวมถึงเทคนิคและแนวปฏิบัติดีๆ อื่นๆ สามารถศึกษาต่อได้ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) แหล่งเรียนรู้ที่คุณจะได้สัมผัสและเข้าใจเทคนิคต่างๆ อย่างลึกซึ้ง!

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา