เมื่อพูดถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่ทันสมัยและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของหน้าจออย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำความเข้าใจหลักการที่สำคัญอย่าง Box Model ของ CSS และการใช้ Box-sizing เพื่อควบคุมวิธีการวัดขนาดของกล่องที่ประกอบไปด้วยเนื้อหาและขอบเขตขององค์ประกอบในเว็บเพจ
Box Model ใน CSS เป็นแนวคิดที่ใช้จำลองการทำงานของเลเยอร์ในองค์ประกอบ HTML ทุกชิ้น โดยกล่องแต่ละกล่องจะประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่
1. Content: ข้อมูลหรือเนื้อหาที่อยู่ภายในองค์ประกอบ 2. Padding: พื้นที่ว่างระหว่างเนื้อหากับขอบของกล่อง 3. Border: เส้นขอบของกล่อง 4. Margin: พื้นที่ว่างระหว่างขอบกล่องและองค์ประกอบอื่น ๆการเข้าใจ Box Model เป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนี้จะมีผลต่อการคำนวณขนาดและการจัดวางองค์ประกอบในหน้าเว็บ ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการสร้าง Responsive Design
ในรูปแบบปกติ CSS จะคำนวณขนาดขององค์ประกอบโดยรวม Padding และ Border เพิ่มเข้ามากับขนาดของ Content ซึ่งทำให้ขนาดโดยรวมของกล่องมีการขยายเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นการออกแบบว่าธรรมดาที่กำหนดขนาดเป็นหน่วยที่แน่นอนอาจจะส่งผลให้การลงตัวของเว็บเพจเสียไปเมื่อปรับเปลี่ยนขนาดหน้าจอ
.box {
width: 200px;
padding: 20px;
border: 5px solid black;
margin: 10px;
}
ตามตัวอย่างด้านบน ขนาดกล่องที่เราคิดว่าเป็น 200px จะรวม padding และ border รวมแล้วจริง ๆ จะมีขนาด 250px นี่จึงเป็นที่มาของปัญหาเมื่อคำนวณพื้นที่ในการจัดวางแต่ละองค์ประกอบ
การใช้คุณสมบัติ `box-sizing` ใน CSS จะช่วยให้เราสามารถควบคุมขนาดขององค์ประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเลือกใช้ค่าต่าง ๆ ดังนี้:
1. content-box: เป็นค่าเริ่มต้น (default) หมายความว่า width และ height จะไม่นับรวม padding และ border 2. border-box: จะคำนวณ width และ height โดยรวม padding และ border เข้าไปด้วยตัวอย่างการใช้ Box-sizing
.box {
box-sizing: border-box;
width: 100%;
padding: 20px;
border: 5px solid black;
}
เมื่อใช้ `box-sizing: border-box;` จะทำให้ขนาดของกล่องอยู่ที่ 100% ของพื้นที่ที่มี โดยที่ padding และ border จะถูกรวมเข้ากับ 100% นั้น การตั้งค่าแบบนี้ทำให้การจัดวางองค์ประกอบใน Responsive Design ง่ายขึ้น เพราะคุณไม่ต้องคำนวณขนาดอืน ๆ ที่เพิ่มเข้ามาจาก padding และ border
การใช้ `border-box` ช่วยให้การกำหนดขนาดขององค์ประกอบอย่างเป็นสัดส่วนง่ายขึ้นมาก เนื่องจากคุณไม่ต้องปรับขนาดใหม่ทุกครั้งเมื่อรวม padding และ border เข้ามาด้วย ด้วยการรวมทุกสิ่งไว้อย่างลงตัว คุณสามารถตั้งค่า width เป็นเปอร์เซ็นต์ (เช่น 50% ครึ่งของ container) ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกังวลว่า padding และ border จะทำให้ขนาดที่คาดหมายไว้เปลี่ยนแปลง
การเข้าใจและใช้ Box Model อย่างถูกต้อง สามารถช่วยลดความยุ่งยากในการคำนวณและสร้าง Responsive Design โดยรวมให้กับเว็บเพจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากใครที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CSS และการออกแบบเว็บไซต์แบบ Responsive Design โดยใช้ Box Model ในรายละเอียดอย่างถ่องแท้ การเรียนโปรแกรมมิ่งที่ EPT อาจเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นการเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ที่เก่งกาจ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM