Bellman-Ford Algorithm เป็นหนึ่งในอัลกอริธึมที่ใช้ในการหาค่าทางสั้นที่สุด (Shortest Path) จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลายบนกราฟที่สามารถมีน้ำหนักเชิงลบ (Negative Weights) ได้ อัลกอริธึมนี้ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1958 โดย Richard Bellman และ Lester Ford ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออัลกอริธึม
การค้นหาทางที่สั้นที่สุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในหลาย ๆ สาขา เช่น การวางแผนเส้นทางในระบบขนส่ง การหาทางเชื่อมต่อในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีเชื่อมโยงกัน ในที่นี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ Bellman-Ford Algorithm ในการแก้ปัญหาทางในการเดินทางในกราฟที่มีน้ำหนักเชิงลบ
Bellman-Ford Algorithm ใช้วิธีการ "Relaxation" ซึ่งจะช่วยให้เราอัปเดตระยะทางที่คาดหวังจากต้นทางไปยังจุดอื่น ๆ ในกราฟ ในทุก ๆ รอบ เราจะตรวจสอบทุกขอบ (Edge) ของกราฟเพื่อลดระยะทางที่บ้านจากต้นทางให้เหลือน้อยที่สุด
ขั้นตอนการทำงาน
1. เริ่มต้นโดยการตั้งค่าระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดอื่นทั้งหมดให้เป็นอนันต์ (Infinity) ยกเว้นจุดเริ่มต้นที่จะตั้งค่าเป็น 0
2. ทำการวนซ้ำตามจำนวนของจุดบนกราฟ (V-1) แถว
3. ในแต่ละรอบ ให้ทำการตั้งค่าแต่ละขอบและทำการ Relaxation
4. ตรวจสอบว่ามีการพบวงจรเชิงลบ (Negative Cycle) หรือไม่
ต่อไปนี้คือโค้ดตัวอย่าง Bellman-Ford Algorithm ที่เขียนด้วยภาษา VBA
วิธีการทำงานของโค้ด
1. การกำหนดกราฟ: ในตัวแปร `graph` เรากำหนดขอบ (Edge) ของกราฟ โดยเป็นรูปแบบอาร์เรย์ 2 มิติ (จุดเริ่มต้น, จุดสิ้นสุด, น้ำหนัก) 2. การตั้งค่าระยะทางเริ่มต้น: เรากำหนดระยะทางจากจุดเริ่มต้นให้เป็น 0 และจากจุดอื่นให้เป็นอนันต์ 3. การทำ Relaxation: เราจัดการอัพเดตระยะทางทุก ๆ ขอบในกราฟ โดยทำการเปรียบเทียบระยะทางที่คาดหวัง 4. การตรวจสอบวงจรเชิงลบ: หลังจากที่เราเสร็จสิ้นการทำ Relaxation จะมีการตรวจสอบเพื่อตรวจหาว่าวงจรเชิงลบอยู่ในกราฟหรือไม่Use Case ในโลกจริง
การใช้ Bellman-Ford Algorithm นั้นสามารถพบได้ในสถานการณ์หลายรูปแบบ เช่น:
- ระบบนำทาง GPS: อัลกอริธึมสามารถใช้ในการคำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุดจากต้นทางไปยังจุดหมายปลายทาง โดยพิจารณาถึงข้อมูลการจราจรที่ไม่แน่นอน - เครือข่ายคอมพิวเตอร์: ในการส่งข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังเครื่องอีกเครื่องในเครือข่าย ผู้ดูแลระบบสามารถใช้ Bellman-Ford Algorithm ในการประเมินเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งข้อมูล - การเงิน: ในการคำนวณต้นทุนที่ต่ำที่สุดที่สามารถใช้ในการประเมินความเสี่ยงของการลงทุน
ข้อดี:
1. สามารถจัดการกับกราฟที่มีน้ำหนักเชิงลบได้
2. ง่ายต่อการติดตามและจัดการการทำงาน
3. ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องเมื่อตรวจสอบวงจรเชิงลบ
ข้อเสีย:
1. การทำงานช้าหากเปรียบเทียบกับ Dijkstra’s Algorithm สำหรับกราฟที่ไม่มีน้ำหนักเชิงลบ
2. ในกราฟที่มีจำนวนโหนดและขอบมาก ๆ อาจสร้างความล่าช้าในการประมวลผล
Bellman-Ford Algorithm เป็นอีกทางเลือกที่มีประโยชน์ในการค้นหาทางที่สั้นที่สุดในกราฟ โดยเฉพาะเมื่อมีน้ำหนักเชิงลบ อย่าลืมว่าความรู้เกี่ยวกับอัลกอริธึมเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจวิธีการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น ถ้าหากคุณสนใจในการเรียนรู้ programming อย่างลึกซึ้ง EPT (Expert-Programming-Tutor) อาจเป็นทางเลือกที่ดี สัมผัสประสบการณ์และทักษะการเขียนโปรแกรมที่น่าตื่นเต้นได้ที่ EPT!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM