Git เป็นระบบควบคุมเวอร์ชันที่โด่งดังและได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายในการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเรียนรู้การใช้งาน Git อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโปรแกรมเมอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานเป็นทีม การทำงานร่วมกันบนโค้ดเดียวกัน โดยเฉพาะสำหรับโครงการขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในไฟล์ต่าง ๆ ผ่านกระบวนการ commit ซึ่งการตรวจสอบ Log ของ Commit เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยให้เรารับรู้ถึงประวัติของการเปลี่ยนแปลงในโครงการได้อย่างละเอียด
Git Log เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงประวัติการทำ commit ใน repository โดยคำสั่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นรายละเอียดของการ commit แต่ละครั้ง เช่น hash ของ commit, ชื่อและอีเมลของผู้ที่ทำ commit, วันที่ที่ทำการ commit, และข้อความที่อธิบาย commit การใช้ Git Log ไม่เพียงช่วยให้เราติดตามความเปลี่ยนแปลงของโค้ดได้ แต่ยังช่วยในการติดตามและแก้ไขบัค (bug) หรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในโค้ดได้อีกด้วย
เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน Git Log ให้เปิด terminal หรือ command prompt ขึ้นมาและเข้าไปยัง repository ที่ต้องการ แล้วใช้คำสั่ง:
git log
เมื่อใช้คำสั่งนี้ ระบบจะแสดงผลลัพธ์เป็นรายการ commit ทั้งหมดใน repository พร้อมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว แต่เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่อาจมีประวัติ commit มากมาย คำสั่ง Git Log จึงรองรับการกรองและจำกัดข้อมูลเพื่อให้ดูง่ายขึ้น
git log -n 5
2. การดู commit จากผู้ใช้คนหนึ่ง: เพื่อจำกัดการแสดงผลให้แสดงเฉพาะ commit ที่เกิดจากผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง เพื่อวิเคราะห์การปรับปรุงของพนักงานคนดังกล่าว คุณสามารถใช้:
git log --author="ชื่อผู้ใช้"
3. แสดงเฉพาะ commit ที่มีคำที่กำหนดอยู่ในข้อความ: เช่น หากต้องการดูเฉพาะ commit ที่มีข้อความที่ระบุตอน commit ว่า "fix" เราใช้คำสั่ง:
git log --grep="fix"
4. แสดง commit ตามช่วงเวลา: หากคุณสนใจเฉพาะ commit ในช่วงเวลาหนึ่ง สามารถใช้คำสั่ง:
git log --since="2023-01-01" --until="2023-12-31"
Git Log มีการแสดงผลในรูปแบบของกราฟ เพื่อให้นักพัฒนาเห็นภาพที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยใช้พารามิเตอร์ `--graph` ร่วมกับ `--oneline` เพื่อความกระชับ เช่น:
git log --graph --oneline
พารามิเตอร์นี้จะทำให้คำสั่ง Git Log แสดงผลโดยมีกราฟด้านหน้าเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง commit โดยลำดับของ commit จะถูกแสดงในบรรทัดเดียว ทำให้ลดความซับซ้อนของข้อความและช่วยเน้นเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สมมุติว่าในโครงการมี bug อยู่ในฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อเดือนที่แล้ว คุณอาจเริ่มต้นจากการดู log เฉพาะของฟีเจอร์นั้นๆ ด้วยการใช้ `--grep` เพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบที่ที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิด bug นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถใช้ `--reverse` เพื่อตรวจสอบย้อนหลังจาก commit เก่าๆ ได้
การทำความเข้าใจและใช้งาน Git Log อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมของคุณโดดเด่นและเป็นระเบียบมากขึ้น Git Log ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของโปรเจ็กต์ และสามารถชี้แนะทีมในการแก้ไขปัญหาเมื่อมี bug หรือความผิดพลาดเกิดขึ้น การเรียนรู้เครื่องมือนี้เป็นการเพิ่มทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้ Git อย่างลึกซึ้งและการเขียนโปรแกรมในด้านอื่นๆ ขอแนะนำให้พิจารณาเรียนกับ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่ให้บริการสอนอย่างครอบคลุมและมืออาชีพ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูงในหลายๆ ภาษาและเครื่องมือการพัฒนา!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM