สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Stack

Stack และ Queue ใน Data Structures - Stack คืออะไร Stack และ Queue ใน Data Structures - การทำงานของ LIFO (Last In First Out) ใน Stack Stack และ Queue ใน Data Structures - การ Push และ Pop ข้อมูลใน Stack Stack และ Queue ใน Data Structures - การตรวจสอบ Empty Stack Stack และ Queue ใน Data Structures - การประยุกต์ใช้งาน Stack ในการแก้ปัญหา Stack และ Queue ใน Data Structures - Queue คืออะไร Stack และ Queue ใน Data Structures - การทำงานของ FIFO (First In First Out) ใน Queue Stack และ Queue ใน Data Structures - การ Enqueue และ Dequeue ข้อมูลใน Queue Stack และ Queue ใน Data Structures - Circular Queue คืออะไร Stack และ Queue ใน Data Structures - Priority Queue คืออะไร Stack และ Queue ใน Data Structures - Deque (Double-ended Queue) คืออะไร Stack และ Queue ใน Data Structures - การประยุกต์ใช้งาน Queue ในการแก้ปัญหา เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C++ ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Java ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน C# ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน VB.NET ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Python ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Golang ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน JavaScript ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Perl ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Lua ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Rust ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Php โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Next โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Node.is โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา fortran โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Delphi Object Pascal โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา MATLAB โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Swift โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Kotlin โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา COBOL โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Objective-C โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Dart โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Scala โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา R language โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา TypeScript โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Abap โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา VBA โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Julia โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Haskell โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Groovy โดยใช้ Stack พร้อมยก code มาเป็นตัวอย่างสำหรับการ insert, update ข้อมูล , ค้นหา find, delete และอธิบายการทำงานสั้นๆ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน PHP ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Next.js ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Node.js ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Fortran ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Delphi Object Pascal ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน MATLAB ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Swift ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Kotlin ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน COBOL ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Objective-C ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Dart ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Scala ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน R language ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน TypeScript ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน ABAP ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน VBA ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Julia ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Haskell ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Groovy ผ่าน Stack เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลแบบไดนามิคใน Ruby ผ่าน Stack

Stack และ Queue ใน Data Structures - Stack คืออะไร

 

การทำความเข้าใจโครงสร้างข้อมูล (Data Structures) เป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การเลือกใช้โครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมสามารถช่วยให้การแก้ปัญหาโปรแกรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ "Stack" หนึ่งในโครงสร้างข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ

 

Stack คืออะไร?

Stack เป็นโครงสร้างข้อมูลชนิดหนึ่งที่ทำงานตามหลักการ "Last In, First Out" หรือ LIFO ซึ่งหมายความว่า ข้อมูลที่ถูกใส่เข้ามาล่าสุดจะถูกนำออกเป็นตัวแรก คล้ายคลึงกับกองจานที่เราเพิ่มจานใหม่ด้านบนและหยิบออกจากด้านบนเช่นกัน

ในแง่ของการใช้งานจริง Stack ถูกนำไปใช้ในหลากหลายบทบาท เช่น การจัดการหน่วยความจำในระหว่างการเรียกใช้ฟังก์ชัน การทำ Undo/Redo ในโปรแกรมเอกสาร หรือการวิเคราะห์แผนผังซ้อนด้วยคณิตศาสตร์

 

การทำงานของ Stack

Stack รองรับการดำเนินการหลักๆ ดังนี้:

- Push: เป็นการเพิ่มข้อมูลใหม่เข้าไปที่ด้านบนสุดของ Stack - Pop: เป็นการลบข้อมูลที่อยู่ด้านบนสุดของ Stack ออก - Peek/Top: เป็นการดูข้อมูลที่อยู่ด้านบนสุดของ Stack โดยที่ไม่ลบออก - isEmpty: เป็นการตรวจสอบว่า Stack ว่างหรือไม่

ลองมาพิจารณาตัวอย่างของการใช้งาน Stack ด้วยภาษา Python:


class Stack:
    def __init__(self):
        self.stack = []

    def is_empty(self):
        return len(self.stack) == 0

    def push(self, item):
        self.stack.append(item)

    def pop(self):
        if not self.is_empty():
            return self.stack.pop()
        else:
            raise IndexError("pop from empty stack")

    def peek(self):
        if not self.is_empty():
            return self.stack[-1]
        else:
            raise IndexError("peek from empty stack")

    def size(self):
        return len(self.stack)

# การใช้งาน
stack = Stack()
stack.push(1)
stack.push(2)
stack.push(3)

print(stack.pop())  # Output: 3
print(stack.peek()) # Output: 2
print(stack.size()) # Output: 2

 

Use Cases ของ Stack

1. การจัดการการเรียกใช้ฟังก์ชัน: ในระหว่างการเรียกใช้ฟังก์ชัน ฟังก์ชันใหม่จะถูกเรียกในขณะที่ฟังก์ชันเดิมยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เกิดการทำงานซ้อนกัน ซึ่ง Stack จะช่วยจัดการการเขียนและนำกลับเมื่อแต่ละฟังก์ชันเสร็จสิ้น

2. ระบบ Undo/Redo: ในโปรแกรมแก้ไขข้อความหรือ CAD การกระทำของตัวผู้ใช้จะถูกบันทึกใน Stack ทำให้สามารถย้อนกลับ (Undo) หรือทำซ้ำการกระทำ (Redo) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การวิเคราะห์และประเมินผลแผนผังที่ซับซ้อน: โดยเฉพาะในปัญหาทางคณิตศาสตร์ เช่นการคำนวณค่า postfix expression ซึ่งใช้ Stack ในการระบุการดำเนินการที่ต้องปฏิบัติแก้ไขก่อน

 

บทสรุป

Stack เป็นหนึ่งในโครงสร้างข้อมูลพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการทางคอมพิวเตอร์หลายประการ ด้วยหลักการทำงานที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการข้อมูลที่เข้าก่อนออกหลังเช่นการจัดการคิวโดยเฉพาะในแอปพลิเคชันที่ต้องการรับประกันการสั่งการเรียงลำดับ

การมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ Stack และการใช้งานในโปรแกรมช่วยให้เราสามารถเลือกใช้โครงสร้างข้อมูลได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ หากคุณกำลังสนใจศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและโครงสร้างข้อมูลสามารถเลือกคอร์สที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ EPT ซึ่งเป็นแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนโปรแกรมมิ่งทำให้การเรียนรู้ของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา