Array เป็นหนึ่งในโครงสร้างข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในด้านการเขียนโปรแกรมและวิทยาการคอมพิวเตอร์ ทุกคนที่ได้เริ่มเรียนรู้การเขียนโปรแกรมคงคุ้นเคยกับเจ้าสิ่งนี้ไม่มากก็น้อย ด้วยธรรมชาติที่มีลำดับและสามารถเก็บข้อมูลชนิดเดียวกันได้หลายๆ ชิ้น ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลแบบกลุ่มได้อย่างเป็นระบบ
ใน Array แบบดั้งเดิม เราอาจจะเคยได้ยินการนิยามที่ว่าเป็น "static array" เนื่องจากขนาดของมันถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แน่นอนว่าในการจัดการข้อมูลจริงๆ การจำกัดขนาดของ Array ถือเป็นข้อจำกัดที่ทำให้เราต้องระลึกถึงเสมอ
Dynamic Array นั้นเกิดขึ้นมาเพื่อลบล้างข้อจำกัดของ static array ตามชื่อเลยคือมันสามารถขยายขนาดของตัวเองได้เมื่อมีความจำเป็น นี่ทำให้มันเหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องมีการเพิ่มข้อมูลเรื่อยๆ โดยไม่สามารถคาดเดาจำนวนข้อมูลล่วงหน้าได้ เช่น การเพิ่มข้อมูลของผู้ใช้งานในโปรแกรมเว็บแอปพลิเคชัน
ลักษณะการทำงานของ Dynamic Array
Dynamic Array ใช้กลไกที่เรียกว่า dynamic memory allocation ในภาษา C++ กลไกนี้สามารถจัดการหน่วยความจำได้อย่างยืดหยุ่น โดยเมื่อมีการเพิ่มข้อมูลเข้าไปจนเต็มค่าเริ่มต้น Dynamic Array จะทำการสร้าง Array ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับข้อมูลเพิ่มเติม
#include <iostream>
#include <vector> // ใช้สำหรับ dynamic array ใน C++
int main() {
std::vector<int> dynamicArray;
// เพิ่มข้อมูลเข้าไป
dynamicArray.push_back(1);
dynamicArray.push_back(2);
dynamicArray.push_back(3);
// แสดงข้อมูล
for (int i : dynamicArray) {
std::cout << i << ' ';
}
return 0;
}
ในตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าเราใช้ `std::vector` ที่เป็น class ที่ C++ เตรียมไว้ให้สำหรับรองรับ dynamic array เราไม่จำเป็นต้องระบุขนาดล่วงหน้า และสามารถใช้ `push_back` เพื่อเพิ่มข้อมูลได้ตามต้องการ
ข้อดีหลักๆ ของ Dynamic Array:
1. ขนาดยืดหยุ่น: ไม่ต้องกำหนดขนาดตอนสร้าง ทำให้ใช้เนื้อที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Static Array 2. ประสิทธิภาพในการเพิ่มข้อมูล: เนื่องจากไม่ต้องคัดลอกข้อมูลทั้งหมดในกรณีมีการขยายขนาด ใช้เพียงการสร้าง Array ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น 3. รองรับการเข้าถึงด้วย index แบบ O(1): เวลาเข้าถึงข้อมูลใน Dynamic Array ก็ยังคงสะดวกเหมือน Static Arrayข้อด้อย:
1. การใช้หน่วยความจำเพิ่มขึ้น: เนื่องจากต้องเก็บข้อมูลโครงสร้างเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดและหน่วยความจำ 2. ประสิทธิภาพเมื่อเต็ม: การขยายขนาด Dynamic Array อาจใช้เวลามากในกรณีที่มีข้อมูลจำนวนมาก (เพราะต้องคัดลอกข้อมูลไปยังที่ใหม่)
ในการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องใช้ Dynamic Array ควรตระเตรียมวงจรทดสอบและจัดการกรณีการคัดลอกข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับประสิทธิภาพมากนัก การเลือกเปิด workshop ตั้งแต่การออกแบบโปรแกรมก็สามารถช่วยให้การใช้ Dynamic Array นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลแบบ Dynamic Array และเทคนิคในโปรแกรมมิ่งต่างๆ อย่างเจาะลึก สามารถพิจารณาเข้าร่วมเรียนรู้กับ EPT ที่พร้อมให้คุณเข้าถึงความรู้ที่จำเป็นในด้านนี้ได้อย่างครบถ้วน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสามารถและวิธีการใช้งานของ Dynamic Array ได้ดียิ่งขึ้น!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM