AI_1
ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันมีความสามารถที่จะปรับปรุงความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้ในหลายๆแง่มุม เช่น การที่เราขับรถ ในปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์สามารถ detect เลนถนนและเตือนเราเมื่อเราออกนอกเลน หรือแม้กระทั้งช่วยเราขับเลยซึ่งก็คือ self-driving car , การที่เราเข้าสังคม AI ก็อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชั่น เช่น Facebook , Tinder ซึ่งช่วยปรับปรุงว่าเราควรจะเห็นอะไร ควรเห็นโพสไหน ไม่ควรเห็นโพสไหน ทำให้เรามีความสุขในการเล่นแอปพลิเคชันเหล่านี้มากขึ้น นอกจากนี้ AI ยังอยู่เบื้องหลังของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ คอยช่วยแนะนำสินค้าที่เราน่าจะอยากได้ ทำให้เราไม่ต้องไล่หาสินค้าทั้งหมด นอกจากนี้ในด้าน Healthcare AI ยังสามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการได้หลายอย่าง ซึ่งผลลัพธ์ของการใช้ AI ในบางครั้งก็สามารถทำให้เรารู้สึกแปลกใจได้
บางครั้งก็เหมือนกับเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมา ในการใช้เทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีอื่นๆในเรื่องของ Healthcare เช่น การใช้ Deep leaning ในการเวิเคราะห์ข้อมูล และใช้วิดีโอสตรีมมิ่งในการดึงข้อมูลสุขภาพจากระยะไกล แต่จริงๆแล้ว AI สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางกว่านั้น ในเรื่องของ Healthcare ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมูลค่านับ ล้านล้านบาท ในแต่ละปี ซึ่งมนุษย์ทั่วโลกจำเป็นต้องเข้าถึง
ถึงแม้ว่าการใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Big Data ในด้าน Healthcare จะถูกบังคับด้วยกฎระเบียบมากมาย แต่ในปัจจุบัน AI ได้ถูกประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตัวอย่างที่เด่นๆ เช่น
นี่เป็นเพียงแค่บางตัวอย่างของวิธีการที่ AI และการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data science revolution )มีผล กระทบต่อระบบ Healthcare สิ่งหนึ่งที่สามารถใช้คาดการณ์อนาคตที่จะขึ้นจากเทคโนโลยีนี้คือในปัจจุบันเรามี เซตของ Data ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นและจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ,อัลกอริทึมฉลาดขึ้นเรื่อยๆและคอมพิวเตอร์เร็วขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปแล้วความสามารถของ AI จะมีความสามารถมากกว่าแพทย์ที่เป็นมนุษย์จริงๆ Mike Olson ผู้ก่อตั้ง Cloudera (https://www.cloudera.com/)ได้สันนิฐานไว้เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้วว่า ในปัจจุบันเราอยู่ในส่วนแรกๆของการรักษาที่มีความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ถ้าความสามารถของ AI เป็นอย่างที่คาดหวังไว้จริงๆ ไม่แน่ว่ามนุษย์จะสามารถมีอายุเฉลี่ยได้ถึง 150 ปี
AI_2
John Snow Labs (https://www.johnsnowlabs.com/) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลทางการแพทยืสำหรับ AI และ Big Data มีมุมมองว่า “ในขณะที่ประชาชนในประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีตัวเลือกทางการแพทย์ที่ดีกว่าประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งประเทศที่กำลังพัฒนานั้นยังขาดแคลนการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางในสาขาต่างๆ”
“ถ้าคุณมองในระยะยาว จะเห็นได้ว่าผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการใช้ AI และ Technology ต่างๆ คือการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึง Healthcare (ของประชาชนในประเทสยากจน) ” คำกล่าวของที่ปรึกษาด้านเทคนิคของ John Snow Labs ที่ไม่ประสงค์ออกนาม “เพราะสิ่งที่มัน(AI)สามารถทำได้ในตอนนี้บางกรณีอาจจะทำได้ดีกว่ามนุษย์ และในบางกรรีถึงแม้ว่ามันจะทำได้ไม่ดีกว่ามนุษย์หรือ ในบางกรรีก็ทำได้ใกล้เคียงกันก็ตาม ในตอนนี้มันก็สามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างแท้จริง ”
มีผู้คนมากมายทั่วโลกตกอยู่ใน ช่องว่างทางการรักษาทางการแพทย์ซึ่งเป็นไปได้ว่า พวกเข้าไม่มีเงินมากพอที่จะไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาหรือ ในสถานที่ที่พวกเขาอยู่ไม่มีแพทย์ นี่เป็นสถานการณ์ปกติที่พบได้ในพื้นที่ของประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น ในชนบทของแอฟริกา ในเมืองชนบทที่โรงพยาบาลยังไม่มีแม้แต่คอมพิเตอร์ไว้สำหรับใช้งานเลยด้วยซ้ำ แค่การติดตามหรือหารายชื่อของผู้ป่วยก็เป็นงานที่เหนื่อละ แต่กรณีอย่างนี้ก็ส่งผลกระทบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน และจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ พบว่ามากกว่า 40% ของผู้ป่วยเลือกที่จะเลื่อนการพบแพทย์หรือไม่มาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพราะการรักษานั้นมีค่าใช้จ่ายสูง
ขณะนี้คนในอุตสาหกรรม Helthcare เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับ โอกาสในการใช้ประโยชน์จาก AI ที่เข้ามาช่วยเพิ่มจำนวนคนที่สามารถเข้ามาดูแลผู้ป่วยเบื้องต้นได้มากขึ้น เป็นความก้าวหน้าของ AI ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางด้าน Healthcare เพราะว่าสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลรักษาตามมาตราฐาน
AI_3
ที่ปรึกษาอย่าง Jonh Snow Labs ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณคิดว่าผู้คนส่วนใหญ่ในโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกาหรือนอกสหรัฐอเมริกาก้ตาม ไม่สามารถเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ ,ผู้เชี่ยงชาญด้านเนื้องอก หรือจักษุวิทยาได้ AI และ Technology ได้ให้โอกาสในการเข้าถึงการรักษาเหล่านั้นในราคาที่ถูกลง”
John Snow Labs จัดหา big data จำนวนมาก และ software ที่พื้นฐานมาจาก AI , บริการ และข้อมูลให้กับบริษัท Healthcare บริษัท The Delaware ได้พัฒนา แพลตฟอร์มวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่สามารถใช้ประโยชน์ของ technology ใหม่ๆทางด้าน AI อย่างเช่น Spark , Tensorflow และ Elasticsearch (https://www.elastic.co/) เพื่อช่วยลูกค้าอย่าง Kaiser Permanente (https://healthy.kaiserpermanente.org/) เพื่อพัฒนาโมเดล machine learning สำหรับการใช้งานสำหรับด้าน Healthcare ซึ่งนำไปสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีทีมของผู้เชี่ยวชาญที่ค่อยรักษาคุณภาพให้อยู่ในระดับสูง ของข้อมูลประมาณ 800 ชุด ใน 18 พื้นที่ของสาขาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ
ในแง่ของ AI แล้ว ในอุสหกรรม Healthcare ยังมีการควบคุณกฎต่างๆจากรัฐบาลอยู่มาก เป็นเรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่า การวิเคราะห์ข้อมูลทางด้า Marketing ที่ทำกับข้อมูลที่อยู่บน Facebook กับการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นกับทางโรงพยาบาล มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก และยังต้องคำนึงถึงกฎระเบียบต่างๆเพราะข้อมูลที่ใช่ในโรงพยาบาลมีความสำคัญกับชีวิตของมนุษย์ นอกจากนี้ HIPAA และ องค์กร ที่ทำหน้าที่ออกกฏระเบียบต่างๆ ยังมีการควบคุมการจัดการข้อมุลและเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ขณะที่การอุตสาหกรรม Helthcare มีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ มัน ยังพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของ AI ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเราสามารถที่จะเห็นวิธีการของเครือข่ายประสาทเทียมได้ เช่น 1 ในนักวิจัยที่ Stanford AI , Andrew Ng ช่วยในการตรวจหาโรคปอดบวมโดยอัตโนมัติด้วยการดู film เอกซเรย์ทรวงอก ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง ดังนั้น ทำให้การดูแล สุขภาพที่มีคุณภาพสามารถเข้าถึงได้ในจำนวนของคนที่กว้างขวางขึ้น
ยังมีงานอีกมากมายที่จะต้องทำเพื่อสร้าง AI ที่ทรงพลังซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายทางด้วย Helthcare - ทั้งในด้านของเทคโนโลยี และในด้านของธุรกิจ แต่ถ้าการคาดการของผู้เชี่ยวชาญถูกต้อง การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่ สุดของ AI กับอุตสาหกรรมhelth care อาจส่งผลที่ยิ่งใหญ่ต่อการกระจายความเท่าเทียมที่ของ ของการดูแลสุขภาพสำหรับทุกๆคนในราคาที่ถูกลง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM